นายนาโอโตะ คัง รัฐมนตรีกระทรวงคลังญี่ปุ่นเผยญี่ปุ่นจำเป็นต้องทบทวนบทบาทของธนาคารที่รัฐบาลให้การสนับสนุนและดูแล ซึ่งรวมถึงธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น หรือเจบิค เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป โดยญี่ปุ่นอาจจะต้องมีธนาคารที่สามารถรับความเสี่ยงในการปล่อยเงินกู้ให้กับโครงการขนาดใหญ่ในต่างประเทศได้
รมว.คลังกล่าวว่า เขาตระหนักถึงนโยบายในการแปรรูปและลดขนาดธนาคารของรัฐ ซึ่งรัฐบาลชุดก่อนภายใต้การนำของนายจุนอิชิโร่ โคอิซูมิ นายกรัฐมนตรีได้เคยใช้มาแล้วเมื่อช่วงต้นทศวรรษที่ 20 และเขาก็อยากทราบว่าการผนวกรวมกิจการและการแปรรูปนั้นจะได้ผลหรือไม่ เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงในด้านเศรษฐกิจและการเงินเมื่อเร็วๆนี้
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การแสดงความคิดเห็นของรมว.คลังเกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลระบุว่า จะเปลี่ยนแปลงการกำกับดูแลในช่วงกลางเดือนเม.ย. เพื่อทำให้เจบิคสามารถขยายวงเงินกู้แก่โครงการก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูงของบริษัทญี่ปุ่นในประเทศอุตสาหกรรม
เมื่อเร็วๆนี้ เจบิคได้อนุมัติเงินกู้เพิ่มเติมแก่โครงการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคในประเทศกำลังพัฒนา
พรรคดีพีเจมองว่า การทบทวนบทบาทของธนาคารในเครือของรัฐบาลนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์ใหม่ในการผลักดันการขยายตัวในประเทศซึ่งทางพรรคหวังว่า บริษัทของญี่ปุ่นจะสามารถคว้าโครงการขนาดใหญ่ในต่างประเทศได้ด้วยการขยายขอบเขตการทำหน้าที่ของสถาบันการเงินที่รัฐบาลให้การสนับสนุนอย่างเจบิค