ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรร่วงเทียบดอลล์ จากความวิตกปัญหาหนี้สินของกรีซ

ข่าวต่างประเทศ Thursday April 8, 2010 07:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 เม.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์หนี้สินของกรีซ และข่าวที่ว่าเศรษฐกิจในยูโรโซนไม่มีการขยายตัวในไตรมาส 4 ปี 2552 ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในสกุลเงินยูโร อีกทั้งส่งผลให้ส่วนต่างระหว่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของรัฐบาลกรีซและเยอรมนีพุ่งขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่มีการใช้สกุลเงินยูโรในปี 2542

ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.33% มาอยู่ที่ระดับ 1.3354 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.3398 ยูโร/ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลง 0.15% แตะที่ 1.5246 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.5269 ปอนด์/ดอลลาร์

ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดขึ้น 0.43% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 1.0731 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.0685 ฟรังค์/ดอลลาร์ แต่อ่อนตัวลง 0.48% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 93.300 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 93.750 เยน/ดอลลาร์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียขยับขึ้น 0.02% แตะที่ 0.9280 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.9278 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.28% แตะที่ 0.7073 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7053 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

วิกฤตการณ์การเงินของกรีซยังคงทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในสกุลเงินยูโร ซึ่งความกังวลในเรื่องนี้ส่งผลให้ส่วนต่างระหว่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของรัฐบาลกรีซและเยอรมนีพุ่งขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่มีการใช้สกุลเงินยูโรในปี 2542 โดยมีรายงานว่ารัฐบาลกรีซต้องการเปิดฉากเจรจาอีกครั้งเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือร่วมของสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เนื่องจากกรีซวิตกกังวลเกี่ยวกับเงื่อนไขการให้ความช่วยเหลือ

นายจอร์จ ปาปาคอนสแตนตินู รมว.คลังกรีซกล่าวว่า กรีซไม่สามารถกู้ยืมเงินที่อัตราดอกเบี้ยปัจจุบันที่ราว 7% และกล่าวด้วยว่าการพุ่งขึ้นของค่าสเปรด (ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล) ในครั้งนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบในทันทีต่อฐานะการคลังของ กรีซ เนื่องจากกรีซสามารถระดมเงินทุนที่จำเป็นต้องใช้ในเดือนเม.ย.จนครบแล้ว

นอกจากนี้ ค่าเงินยูโรยังถูกกดดันหลังจากยูโรสแตทรายงานว่า เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร 16 ประเทศไม่มีการขยายตัวในไตรมาส 4 ปี 2552 หลังจากที่บริษัทเอกชนได้ลดการใช้จ่ายลงมากกว่าที่ได้มีการคาดการณ์ไว้

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนหลังจากนายโธมัส โฮนิก ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแคนซัส ซิตี้ กล่าวในที่ประชุมที่เมืองนิวเม็กซิโก ว่า เฟดไม่ควรตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rate) ที่ระดับต่ำนานเกินไปเพราะอาจก่อให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อ พร้อมกับแนะนำให้คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดเริ่มพิจารณาเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ