สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 เม.ย.) เนื่องจากกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของกรีซและข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีนทำให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำ อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นไม่มากนักเพราะถูกบดบังจากตัวเลขว่างงานรายสัปดาห์ในสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่สอง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 70 เซนต์ ปิดที่ 1,160.30 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,150.70-1,162.80 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะแงินส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดที่ 18.433 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 1.80 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.6005 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ปิดที่ 1,726.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 7.90 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดที่ 545.90 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 2.10 ดอลลาร์
นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง หลังจากมีข่าวว่ารัฐบาลกรีซอาจขอความช่วยเหลือจากสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ในเดือนนี้ ซึ่งเร็วกว่ากำหนดเดิมที่วางไว้ และบ่งชี้ว่าสถานะด้านการคลังของกรีซกำลังตึงตัวอย่างหนัก
นอกจากนี้ ตลาดทองคำนิวยอร์กได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจีนที่ขยายตัวแข็งแกร่งในไตรมาสแรกปีนี้ อาจทำให้ดีมานด์ทองคำดีดตัวขึ้นด้วย โดยเมื่อวานนี้สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) รายงานว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาสแรกปีนี้ ขยายตัวในอัตรา 11.9%ต่อปี คิดเป็นมูลค่าโดยรวม 8.06 ล้านล้านหยวน หรือ 1.19 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำสถิติขยายตัวรวดเร็วที่สุดในรอบเกือบ 3 ปี
อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดทองคำค่อนข้างซบเซา ซึ่งทำให้สัญญาทองคำปิดบวกเพียงเล็กน้อย หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น 24,000 คน มาอยู่ที่ระดับ 484,000 คน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนก.พ.ที่ผ่านมา และเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันสองสัปดาห์