สำนักงานคุ้มครองความปลอดภัยด้านการทำงานแห่งมณฑลกานซูเปิดเผยว่า มณฑลกานซูกำลังวางแผนควบคุมจำนวนเหมืองขนาดเล็กที่มีกำลังการผลิตต่ำกว่า 300,000 ตัน ให้เหลือเพียง 200 แห่งภายในปลายปี 2553 ด้วยการปิดเหมืองขนาดเล็กบางแห่งที่ขาดคุณสมบัติคุ้มครองความปลอดภัยด้านการทำงาน
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีเหมืองในมณฑลกานซูราว 351 แห่ง ซึ่งในจำนวนนี้มีอยู่ 310 แห่งที่มีกำลังการผลิตต่ำกว่า 300,00 ตัน
-- คณะกรรมการด้านการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) ประกาศว่า NDRC จะบังคับใช้มาตรการตรวจสอบเหมืองถ่านหินทั่วประเทศ โดยระบุว่าโครงการเหมืองถ่านหินฉบับใหม่และโครงการผนวกรวมเหมืองถ่านหินนั้น เกี่ยวข้องกับการเพิ่มกำลังการผลิตถ่านหินให้ได้มากกว่า 600,000 ตัน/ปี โดยผ่านกระบวนการตรวจสอบและอนุมัติ โดยทาง NDRC และสำนักงานคณะกรรมการด้านพลังงานแห่งชาติจะเป็นผู้อนุมัติ
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ทุกครั้งที่ทางการจีนใช้มาตรการตรวจสอบเหมืองถ่านหินทั่วประเทศ จะส่งผลให้อัตราการขยายตัวของผลผลิตถ่านหินลดน้อยลง และอาจทำให้เหมืองถ่านหินบางแห่งต้องถูกระงับการผลิต ซึ่งสถานการณ์เหล่านี้จะส่งผลให้ราคาถ่านหินพุ่งขึ้น
-- ราคาถ่านหินที่ตลาดสปอตในท่าเรือชิงหัวเต่า ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าและการขนถ่ายถ่านหินที่สำคัญทางตอนเหนือของจีน ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากสต็อกถ่านหินร่วงลง 16.5% จากสัปดาห์ก่อนหน้านี้
-- บริษัท สเตทกริด ซึ่งเป็นหนึ่งในสองผู้ดำเนินการโครงข่ายระบบไฟฟ้า เปิดเผยรายงาน "Green Development White Paper" โดยระบุว่าทางบริษัทจะพยายามลดการแพร่กระจายของคาร์บอนลง 1.05 หมื่นล้านตันในช่วงปี 2554-2563
-- ยอดนำเข้าถ่านหินในมณฑลกวางตุ้ง พุ่งขึ้นเป็นสองเท่า แตะที่ระดับ 12.038 ล้านตันในไตรมาสแรกปีนี้ โดยราคาถ่านหินนำเข้าโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 78.9 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 27.5% ต่อปี เนื่องจากดีมานด์ถ่านหินจากอุตสาหกรรมปลายน้ำปรับตัวสูงขึ้น อาทิ อุตสาหกรรมพลังงาน เหล็ก และอุตสาหกรรมเคมี ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายตัวของเศรษฐกิจ สำนักข่าวซินหัวรายงาน