องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) เปิดเผยในรายงานที่เตรียมไว้เพื่อเผยแพร่ในที่ประชุมรัฐมนตรีแรงงานของชาติสมาชิก G20 ในระหว่างวันที่ 20-21 เม.ย.นี้ที่เมืองพิทซ์เบิร์กของสหรัฐ โดยระบุว่านโยบายแก้ไขวิกฤเศรษฐกิจที่รัฐบาลในกลุ่ม G20 นำมาใช้นั้น ช่วยให้เกิดการจ้างงานราว 21 ล้านตำแหน่งในปี 2552 และ 2553
รายงานของ ILO ยังระบุด้วยว่า การที่กลุ่ม G20 ถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากประกาศใช้มาตรการดังกล่าวไปเมื่อปี 2552 ไม่ถือเป็นการดำเนินการก่อนเวลาอันควร เพราะเป็นที่เข้าใจได้ว่าทางรัฐบาลจำเป็นต้องปรับสมดุลด้านการคลัง "การจ้างงานในกลุ่ม G20 ฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอุตสาหกรรมก่อสร้าง ส่วนในการประชุมครั้งนี้ เนื้อหาหลักจะอยู่ที่ผู้นำกลุ่ม G20 ที่จะชูประเด็นการจ้างงานอย่างมีคุณภาพ ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ส่วนในอนาคตนั้น เราจำเป็นต้องวางกรอบการกระตุ้นการจ้างงานให้ขยยายตัวอย่างแข็งแกร่ง ยั่งยืน และมีความสมดุล" รายงานของ ILO ระบุ
อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษาของ ILO บ่งชี้ว่า จำนวนคนตกงานที่สะสมมาตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2551 ยังคงปรับตัวสูงขึ้นจนถึงช่วงไตรมาสแรกปีนี้ แม้เศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัวแล้วก็ตาม ทั้งนี้ก็เพราะการจ้างงานอย่างไม่มีข้อผูกมัดและภาวะยากจนในบางประเทศของกลุ่มตลาดเกิดใหม่และกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา รวมทั้งอัตราการขยายตัวของตัวเลขจ้างงานในหลายประเทศที่ยังคงอ่อนแอ
นอกจากนี้ ILO ระบุว่า อัตราการขยายตัวในภาคธุรกิจของหลายประเทศยังคงเปราะบางและอ่อนแอ ซึ่งบ่งชี้ว่าทางรัฐบาลจำเป็นต้องใช้มาตรการสนับสนุนการจ้างงานและสวัสดิการสังคมไปจนกว่าตัวเลขจ้างงานจะขยายตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สำนักข่าวซินหัวรายงาน