แคททาพิลลาร์ อิงค์ (Caterpillar Inc.) บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ก่อสร้างรายใหญ่สุดของโลกเผยบริษัททำกำไรได้ในไตรมาสแรกปีนี้ แม้ยอดขายและรายได้ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า แคททาพิลลาร์มีผลกำไรสุทธิประจำไตรมาสแรกที่ 233 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับที่เคยขาดทุน 112 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ผลกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 0.36 ดอลลาร์ ซึ่งดีดตัวขึ้นจากที่ขาดทุน 0.19 ดอลลาร์ในปีก่อนหน้านี้ ขณะที่ยอดขายและรายได้รวมลดลงสู่ระดับ 8.24 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 9.23 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่แล้ว
ทั้งนี้ แคททาพิลลาร์กล่าวว่า ปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นให้บริษัทสามารถทำกำไรได้นั้น มาจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และต้นทุนด้านการผลิตที่ลดลง ซึ่งสามารถชดเชยผลกระทบจากการจ่ายค่าธรรมเนียมภาษีตามกฎหมายประกันสุขภาพฉบับใหม่ของสหรัฐจำนวน 90 ล้านดอลลาร์ได้
จิม โอเวนส์ ประธานและซีอีโอของแคททาพิลลาร์กล่าวในแถลงการณ์ว่า "ปัจจัยทางเศรษฐกิจดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะจากกลุ่มประเทศเศรษฐกิจกำลังพัฒนา ขณะที่กิจกรรมในภาคอุตสาหกรรมและยอดสั่งซื้อสินค้าขยายตัวดีกว่าที่เมื่อปีที่แล้ว นอกจากนี้ ภาคอุตสาหกรรมบางกลุ่มยังขยายตัวได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์"
"แม้ว่าบริษัทจะเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปี 2552 แต่เรายังคงเดินหน้าลงทุนในโครงการต่างๆทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลจากการลงทุนเหล่านี้ช่วยปูทางความสำเร็จในการขยายตัวในระดับโลกต่อไป" โอเวนส์เสริมทั้งนี้ จากแนวโน้มทางเศรษฐกิจโลกที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ทำให้บริษัทได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ยอดขายและรายได้ประจำปี 2553 ขึ้นมาอยู่ที่ 3.8-4.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ จากก่อนหน้านี้ที่ประเมินไว้ในระดับ 3.56 - 4.05 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วนกำไรสุทธิต่อหุ้นคาดว่าจะอยู่ที่ 2.50-3.25 ดอลลาร์/หุ้น
ขณะนี้บริษัทมียอดสั่งซื้อที่แข็งแกร่งจากอุตสาหกรรมเหมืองและพลังงาน ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีมากสำหรับการส่งออก นอกจากนี้ ปัจจัยหนุนหลักที่ขับเคลื่อนแนวโน้มเศรษฐกิจยังมาจากการขยายตัวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และลาตินอเมริกา รวมถึงการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในภาคอุตสาหกรรเหมืองและพลังงานทั่วโลก