จัสติน หยีฟู หลิน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์และรองประธานอาวุโสของธนาคารโลกหรือเวิลด์แบงก์ กล่าวระหว่างการประชุม "จีนและอนาคตของเศรษฐกิจโลก" ซึ่งจัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยชิคาโก้ว่า การที่รัฐบาลจีนลงทุนอยางมหาศาลในโครงสร้างพื้นฐานรวมถึงการขยายตัวของเขตเมือง (urbanization)ในจีน จะช่วยให้เศรษฐกิจจีนขยายตัวอย่างรวดเร็วต่อเนื่องในช่วงเวลา 20 ปีต่อจากนี้ไป
"นับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินในช่วงครึ่งหลังของปี 2551 รัฐบาลจีนก็ใช้นโยบายการเงินอย่างเต็มที่และลงทุนอย่างมหาศาลในโครงสร้างพื้นฐาน จนในที่สุดก็สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจจีนให้ขยายตัวได้สำเร็จ และเป็นผลดีต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกด้วย" นายหลินกล่าว
นายหลินกล่าวต่อไปว่า ประเทศกำลังพัฒนาส่วนมากกำลังประสบภาวะยากลำบากทางเศรษฐกิจ และการที่จีนทุ่มลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานได้สร้างตัวอย่างที่ดีให้กับประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ และธนาคารโลกอาจพิจารณาปล่อยเงินกู้ให้กับประเทศกำลังพัฒนาเหล่านั้นเพื่อนำไปลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานต่อไป
นายหลินยังกล่าวด้วยว่าการพัฒนาเศรษฐกิจในอนาคตของจีนมีศักยภาพมากกว่าประเทศเศรษฐกิจหลักอีกหลายประเทศ
"ปัจจุบันจีนเป็นประเทศที่มีรายได้ระดับกลาง และมีอัตราการขยายตัวของเขตเมืองเพียง 40% ดังนั้นการที่เขตเมืองของจีนมีการขยายตัวเร็วขึ้นทำให้มีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานมากขึ้น ซึ่งเป็นหลักประกันว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในระยะยาว" สำนักข่าวซินหัวรายงาน