นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยจากประเทศญี่ปุ่นว่า ตนเองได้ชี้แจงให้นักลงทุนและผู้เกี่ยวข้องในการสัมมนาที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้เข้าใจข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ที่รัฐบาลสามารถประคองให้สถานการณ์คลี่คลายลงได้ จนไม่นำไปสู่ให้เกิดการปฎิวัติขึ้น สะท้อนว่าระบบประชาธิปไตยของไทยยังเข้มแข็ง
อย่างไรก็ตามยอมรับว่านักลงทุนญี่ปุ่นที่เข้ามาลงทุนในไทย มีความไม่มั่นใจเกี่ยวกับความปลอดภัย หลังเกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายขึ้น เพราะนักลงทุนญี่ปุ่นที่เข้ามาลงทุนมานาน รู้สึกเป็นครั้งแรกถึงความไม่ปลอดภัยภัยในประเทศไทย ดังนั้น รัฐบาลไทยจึงต้องเข้ามาดูแลในเรื่องนี้
และในเวที่สัมมนาเดียวกัน ยังพบว่า เวียดนามยังอาศัยช่วงชิงโอกาสที่ไทยมีปัญหา เชิญชวนนักลงทุนต่างชาติให้เข้าไปลงทุนในประเทศเวียดนามด้วย ดังนั้นเรื่องนี้จึงถือว่าจะเป็นบทเรียนให้คนไทยได้รับรู้ด้วยว่า ความสูญเสียที่เกิดขึ้นไม่มีใครได้ประโยชน์ แต่ต่างชาติกลับอาศัยโอกาส ใช้ความได้เปรียบที่มีอยู่ช่วงชิงโอกาสจากประเทศไทยไปแล้ว
"ผมมาพูดแทนนายกฯ เล่าความจริงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้นักลงทุนญี่ปุ่นได้ฟัง ไม่ได้พูดโรดโชว์ หรือพูดสิ่งไม่ดีให้เป็นดี แต่ต้องการสื่อให้นักลงทุนเข้าใจสถานการณ์...นักลงทุนญี่ปุ่นที่มาลงทุนในไทยมานาน รู้สึกเป็นครั้งแรกว่าไทยไม่ปลอดภัย จึงอยากให้รัฐบาลดูแลเรื่องนี้เพราะช่วงที่ผ่านมา ไทยได้เปรียบประเทศเพื่อนบ้านมาโดยตลอด" นายกรณ์ กล่าว
รมว.คลัง กล่าวอีกว่า ปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นมี 2 ระดับ คือ ระดับผู้นำ และผู้บงการที่มีความขัดแย้งทางการเมือง กับผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง ที่เดือดร้อนจากความเหลื่อมล้ำทางสังคม ไม่ได้รับความเป็นธรรมทางสังคม ซึ่งขณะนี้รัฐบาลพยายามเข้ามาแก้ปัญหาทางสังคม มีการวางนโยบายต่างๆ ทั้งการประกันรายได้เกษตรกร ขณะที่นายกรัฐมนตรี ยังคงเดินหน้าแผนปรองดอง