สมาคมเศรษฐศาสตร์ธุรกิจแห่งชาติ (NABE) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจสหรัฐที่หลุดพ้นจากภาวะถดถอยเมื่อปีที่แล้ว จะฟื้นตัวแข็งแกร่งกว่าที่ประเมินไว้ในตอนแรก โดยนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่เชื่อว่า เศรษฐกิจสหรัฐซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกจะขยายตัว 3.2% ในปีนี้และปีหน้า จากที่คาดการณ์เมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ว่าจะขยายตัว 3.1%
นอกจากนี้ นักเศรษฐศาสตร์ที่ร่วมตอบแบบสำรวจซึ่งจัดทำโดย NABE ระหว่างวันที่ 27 เม.ย. - 7 พ.ค. ยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การจ้างงานและการใช้จ่ายของผู้บริโภคในปีนี้ด้วย
แนวโน้มที่เป็นบวกเช่นนี้มีขึ้นแม้ในขณะที่ความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรปเพิ่มสูงขึ้น โดยนักเศรษฐศาสตร์ถึงเกือบครึ่งหนึ่ง หรือ 49% มีความเห็นว่า กรีซจะผิดนัดชำระหนี้ภายในหนึ่งปี หรือหลังจากที่พ้นกำหนดการขยายเวลาชำระหนี้ให้กรีซในระยะสั้น
อย่างไรก็ตาม การสำรวจได้จัดทำขึ้นก่อนที่เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของยุโรปได้ประกาศแพคเกจเงินกู้เกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์เพื่อช่วยเหลือรัฐบาลที่ประสบภาวะหนี้สูง
"แม้ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับยุโรปได้เพิ่มสูงขึ้นในช่วงนี้ แต่แนวโน้มในประเทศก็ดีขึ้นเกือบทุกด้าน" ลินน์ รีเซอร์ ประธาน NABE ระบุในแถลงการณ์
“การคาดการณ์เรื่องการขยายตัวแข็งแกร่งขึ้น อัตราเงินเฟ้อและว่างงานลดลง และความกังวลเกี่ยวกับการประหยัดการใช้จ่ายของประชาชนและแรงปะทะด้านการเงินในประเทศก็ลดลง"
ผลสำรวจชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐได้เริ่มดีดตัวขึ้นจากภาวะถดถอยตั้งแต่เดือนมิ.ย.2552 อย่างไรก็ตาม NABE ซึ่งมีหน้าที่ตัดสินว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐเริ่มต้นขึ้นและสิ้นสุดเมื่อใด กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า ยังเร็วเกินไปที่จะประกาศว่า ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่เริ่มต้นขึ้นในเดือนธ.ค.2550 นั้น ได้สิ้นสุดลงแล้ว