กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐในเดือนเม.ย.พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 16 เดือน หลังยอดส่งออกร่วงลงเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 เดือน ขณะที่ความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรปได้เริ่มส่งผลกระทบต่อกลุ่มผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมการผลิตของสหรัฐ
สหรัฐมียอดขาดดุลการค้าในเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 4.03 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงขึ้น 0.6% จากยอดส่งออกของสหรัฐในเดือนมี.ค.ที่ลดลง 0.6% ขณะที่ยอดนำเข้าตกลง 0.4%
โดยในเดือนเม.ย. สหรัฐมียอดส่งออกลดลงแตะที่ 1.488 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยที่อุปสงค์สินค้าเกษตรของสหรัฐตกลง 647 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ภาวะซบเซายังขยายวงกว้างลุกลามไปยังกลุ่มสินค้าภาคการผลิตนับตั้งแต่อุปกรณ์ไฟฟ้าไปจนถึงเครื่องจักรในภาคอุตสาหกรรม
สำหรับยอดนำเข้าของสหรัฐทรุดตัวลงแตะ 1.891 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่อุปสงค์น้ำมันยังคงทรงตัวจากเดือนมี.ค. และยอดนำเข้าสินค้าผู้บริโภคสินค้าอุปโภคบริโภคโดยรวมทรุดตัวลง 741 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเฉพาะยอดนำเข้าสินค้าเวชภัณฑ์ที่ร่วงลงอย่างหนัก
ก่อนหน้านี้ ภาคอุตสาหกรรมการผลิตของสหรัฐกำลังปรับตัวดีขึ้นในขณะที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวจากภาวะถดถอยในรอบหลาย 10 ปี แต่ความวิตกกังวลต่อวิกฤตหนี้สินในยุโรปได้บั่นทอนให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจในบางประเทศชะลอตัวลง และฉุดรั้งอุปสงค์ในตลาดส่งออกสำคัญของสหรัฐ
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์กังวลว่า ยุโรปอาจเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยในระดับตัวเลข 2 หลัก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความต้องการสินค้าส่งออกของสหรัฐ เนื่องจากภูมิภาคดังกล่าวมีสัดส่วนการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐราว 15%