นายเจริญ วังอนานนท์ ประธานสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว กล่าวภายหลังการเข้าหารือกับนายกรัฐมนตรีว่า ผู้ประกอบการเข้าเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบด้านการท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นจากการชุมนุม ซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้จัดกลุ่มผู้ประกอบการที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างแท้จริงและวงเงินสินเชื่อที่ต้องการให้ช่วยเหลือ รวมถึงด้านอื่นให้ชัดเจน เพื่อที่รัฐจะกำหนดมาตรการช่วยเหลือได้อย่างตรงกับความต้องการ และไม่ถูกสังคมครหาว่าเป็นการช่วยเหลือผู้ที่ไม่ได้รับความเดือดร้อนจริง
ทั้งนี้ คาดว่าผู้ประกอบการจะสามารถนำกลับมาเสนอให้นายกรัฐมนตรีได้อีกครั้งในสัปดาห์หน้า
นอกเหนือจากเรื่องผลกระทบจากการชุมนุมแล้ว ผู้ประกอบการขอให้ช่วยเหลือเพิ่มเติม เนื่องจากเกิดปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำในสหภาพยุโรป ทำให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง 20% เมื่อประกอบกับภาพลักษณ์ของประเทศกำลังมีปัญหายิ่งเป็นปัญหาต่อการทำตลาดยุโรปซึ่งเป็นตลาดใหญ่
ส่วนเรื่องที่รัฐบาลยังคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ไว้นั้น เอกชนมองว่าคงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก หากจะช่วยให้การท่องเที่ยวเกิดความยั่งยืนในระยะยาว
ด้านนายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ในส่วนของ ทท.ได้เตรียมแผนฟื้นฟูไว้ 2 ส่วน โดยในประเทศจะของบประมาณ 360 ล้านบาท จัดงานพบผู้บริโภคเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ ขณะนี้รอการจัดสรรงบประมาณจากสำนักงบประมาณ หากได้รับก็จะสามารถดำเนินการได้ทันที
ขณะที่ในส่วนของแผนต่างประเทศ จะปรับแผนงานปกติมาใช้เพื่อแก้วิกฤติที่เกิดขึ้น โดยจะกระตุ้นในระยใกล้คือ ตลาดเอเซีย จีน ฮ่องกงที่ไม่มีเงื่อนไขในการเดินทางมาประเทศไทยมากนักก่อน หลังจากนั้นในระยะยาวจะทำตลาดยุโรป โดยจะร่วมมือกับสายการบิน
อย่างไรก็ตาม คาดว่าการท่องเที่ยวของไทยจะกลับมาสู่ภาวะปกติในปลายปีนี้ โดยยืนยันเป้าหมายตัวเลขนักท่องเที่ยวทั้งปี 53 ที่ 14.1 ล้านคน เท่ากับปี 52 ส่วนตัวเลข 15.5 ล้านคนที่เคยมีการคาดการณ์ไปก่อนหน้านี้ เป็นการประเมินหลังเห็นตัวเลขไตรมาสแรกเติบโตมาก