นายหลิว เจียยี ผู้อำนวยการสำนักงานตรวจสอบบัญชีแห่งชาติ (NAO) เปิดเผยว่า ยอดการปล่อยเงินกู้ของธนาคารที่ดำเนินงานโดยรัฐบาลท้องถิ่นของจีนในปี 2552 มีอยู่ทั้งสิ้น 3 ล้านล้านหยวน ซึ่งเงินกู้ส่วนใหญ่ถูกนำไปใช้เป็นทุนในการก่อสร้างสาธารณูปโภค
นายหลิวกล่าวว่า รัฐบาลในระดับมณฑล 18 แห่ง ระดับเมือง 16 แห่ง และระดับเขต 36 แห่งของจีน มีหนี้สินโดยรวมที่ระดับ 2.79 ล้านล้านหยวน (4.103 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยรัฐบาลท้องถิ่นบางแห่งมีภาระหนักในการจ่ายคืนเงินกู้ ซึ่งส่งผลให้ตัวเลขหนี้สินของรัฐบาลตกอยู่ในความเสี่ยงด้วย
-- เจ้าหน้าที่กำกับดูแลภาคธุรกิจธนาคารจีนชี้ว่า ธนาคารพาณิชย์ควรกำหนดระบบบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างเป็นอิสระให้สอดคล้องกับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ซึ่งนับเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการลดความเสี่ยงภาคการเงิน
คณะกรรมการกำกับดูแลภาคธุรกิจธนาคารจีนกล่าวถึงข้อแนะนำที่มีการเผยแพร่บนเว็บไซต์ว่า วิกฤตการเงินโลกที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการเพิ่มการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านการเงินภาครัฐ ซึ่งสถาบันการเงินผู้ปล่อยเงินกู้จำเป็นต้องแยกแยะความเสี่ยงตามแต่ละประเทศที่จีนมีส่วนเกี่ยวข้องในการออกเงินกู้ รวมถึงต้องกำหนดนโยบายการตั้งสำรองหนี้สูญขั้นต่ำตั้งแต่ 0.5% ไปจนถึง 50%
-- ธนาคารกลางจีนเปิดเผยว่า นิติบุคคลภาคเอกชนที่ไม่ใช่สถาบันการเงินจะได้รับอนุญาตให้สามารถดำเนินธุรกิจด้านบริการชำระเงินได้ก็ต่อเมื่อบริษัทนั้นๆ ดำเนินงานตามข้อบังคับด้านการกำกับดูแลภาคธุรกิจอย่างครบถ้วน ขณะเดียวกันธนาคารกลางจะไม่กำหนดข้อจำกัดในการอนุญาตให้บริษัทที่ไม่ใช่สถาบันการเงินสามารถดำเนินธุรกิจด้านบริการชำระเงิน และจะให้การสนับสนุนสนุนบริษัทเหล่านี้ให้บริการด้านการชำระเงินภายใต้บรรยากาศการแข่งขันทางธุรกิจที่เท่าเทียมกัน สำนักข่าวซินหัวรายงาน