สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (6 ก.ค.) เนื่องจากการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นและค่าเงินยูโรที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำ และแห่เข้าเทรดในตลาดหุ้นและตลาดปริวรรตเงินตรา นอกจากนี้ รายงานภาคบริการที่ขยายตัวช้าลงของสหรัฐยังไม่สามารถกระตุ้นนักลงทุนให้เข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดความเสี่ยงด้วย
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 12.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,195.10 ดอลลาร์/ออนซ์ เคลื่อนตัวในช่วง 1,215.10 - 1,189.50 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 13.80 เซนต์ ปิดที่ 17.857 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 3.9 เซนต์ ปิดที่ 2.9160 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 15.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,518.70 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 13.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 440.40 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำเพื่อเข้าเทรดในตลาดหุ้นและตลาดปริวรรตเงินตรา หลังจากตลาดหุ้นและสกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ โดยตลาดหุ้นนิวยอร์กได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเพื่อเก็งกำไร หลังจากตลาดร่วงลงอย่างหนักในช่วง 7 วันทำการที่ผ่านมา
นอกจากนี้ นักลงทุนยังไม่ให้ความสนใจต่อข้อมูลภาคบริการที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) รายงานว่า ดัชนีภาคบริการและกิจกรรมทางธุรกิจเดือนมิ.ย.ขยายตัวที่ระดับ 53.8 จุด ซึ่งแม้ว่าดัชนีที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 จุดจะบ่งชี้ว่าภาคบริการยังคงมีการขยายตัว แต่ดัชนีเดือนมิ.ย.ขยายตัวในอัตราที่ช้าลงเมื่อเทียบกับเดือนพ.ค.ที่มีการขยายตัว 55.4 จุด และต่ำกว่าระดับสูงสุดที่ 67.7 จุดของเมื่อปี 2547