กระทรวงการค้าญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดค้าปลีกประจำเดือนมิ.ย.ขยายตัว 3.2% ซึ่งเป็นสถิติที่เพิ่มขึ้นติดต่อกันเดือนที่ 6 เนื่องจากความต้องการรถยนต์ น้ำมันเบนซิน และเสื้อผ้า ปรับตัวสูงขึ้น และเป็นการสนับสนุนมุมมองของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ที่ระบุว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังอยู่ในระยะฟื้นตัว
ยอดค้าปลีกที่เพิ่มขึ้นนับเป็นหลักฐานล่าสุดที่บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นอาจฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้อัตราการขยายตัวด้านการส่งออกชะลอตัวลงก็ตาม ขณะที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจของชาวญี่ปุ่นขยายตัวขึ้นทุกเดือนในปีนี้ เนื่องจากอัตราค่าแรงและการจ้างงานเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตัวเลขการใช้จ่ายภาคครัวเรือนจะสามารถขยายตัวต่อไปได้แม้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลญี่ปุ่นหมดอายุลงในช่วงปลายปีนี้ก็ตาม
ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย.ของญี่ปุ่นพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2550 เนื่องจากผู้บริโภคมีมุมมองที่เป็นบวกต่อตลาดแรงงาน แม้ว่าตลาดหุ้นร่วงลงอันเนื่องมาจากความกังวลที่ว่าเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลงก็ตาม