สถาบันสังคมศาสตร์ของจีน (CASS) คาดการณ์ในรายงานการพัฒนาเมืองของจีนที่เผยแพร่ในวันนี้ว่า อัตราการการขยายตัวของเขตเมือง (urbanization) ในประเทศจีนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นแตะที่ 52% ในปี 2558
โดยจีนมีจำนวนประชากรในเมืองที่ระดับ 620 ล้านคนในปี 2552 ซึ่งเพิ่มขึ้น 163 ล้านคนจากปี 2543 ขณะที่อัตราการขยายตัวของเขตเมืองพุ่งขึ้นแตะที่ 46.6% ในปี 2552 ซึ่งเพิ่มขึ้น 10.4% จากปี 2543 หรือคิดเป็นอัตราเฉลี่ยการขยายตัวต่อปีที่ 1.2%
ปัจจุบัน จีนรั้งอันดับ 1 ของโลกในแง่การขยายตัวของเมืองต่อปีและจำนวนประชากรในเขตเมือง
-- หลิว ไห่กวน ผอ.สำนักงานพัฒนากิจการด้านเศรษฐกิจทั่วไปในสังกัดกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า จีนจะยังคงกระตุ้นการส่งออกและสร้างเสถียรภาพด้านการนำเข้าสินค้าในช่วงที่มีการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลก
หลิวย้ำว่าจีนไม่มีเป้าหมายที่จะกระตุ้นให้ประเทศมียอดเกินดุลการค้าสูงเกินไปนัก เนื่องจากการขยายตัวของยอดเกินดุลการค้ามากเกินไปไม่เป็นผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ยอดเกินดุลการค้าปัจจุบันของจีนอยู่ในกรอบที่ประเทศอื่นๆ ยอมรับได้
-- ไชน่า อินเวสท์เมนท์ คอร์ปอเรชั่น (China Investment Corporation หรือ CIC) ซึ่งเป็นกองทุนเพื่อความมั่งคั่งแห่งชาติของจีนเปิดเผยในรายงานประจำปีฉบับล่าสุดว่า อัตราผลตอบแทนจากการดำเนินงานทั่วโลกประจำปี 2552 ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 11.7% หลังจากที่ติดลบ 2.1% ในปี 2551
รายงานดังกล่าวนับเป็นรายงานฉบับที่สองของ CIC ซึ่งผลตอบแทนโดยรวมของกองทุนที่มีการจดทะเบียนของกองทุนเพื่อความมั่งคั่งพุ่งแตะที่ 12.9% ในปี 2552 หลังจากที่ได้รวมผลตอบแทนของบริษัทไชน่า ฮุยจิน อินเวสเมนท์ จำกัด ที่อยู่ในเครือของ CIC ซึ่งมุ่งลงทุนในกลุ่มสถาบันการเงินภายในประเทศเพียงอย่างเดียว
-- หนังสือพิมพ์ไชน่า ซีเคียวริตี้ เจอร์นัล รายงานอ้างการเปิดเผยของนายโจว ชี่เหริน คณะกรรมาธิการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางจีนว่า จีนสามารถพิจารณาปรับลดค่าเงินหยวนลงได้เล็กน้อย เพื่อกระตุ้นเสถียรภาพด้านการส่งออก
ด้านธนาคารกลางจีนชี้แจงว่า อัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนจะไม่สามารถปรับเพิ่มได้ภายในครั้งเดียว ซึ่งหมายความว่าการปรับอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนจะต้องอาศัยกระบวนการที่เกิดขึ้นในระยะยาว