(เพิ่มเติม1) ผู้ว่า ธปท.มองบาทไม่ผันผวน-แข็งค่าตามภูมิภาค,ไม่พบเก็งกำไรอย่างผิดปกติ

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday August 18, 2010 11:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)กล่าวว่า การแข็งค่าของเงินบาทในขณะนี้เป็นไปในทิศทางเดียวกับค่าเงินภูมิภาค และไม่ได้ผันผวนเกินไป ขณะที่ ธปท.ยังไม่พบการเข้ามาเก็งกำไรอย่างผิดปกติ ดังนั้นก็จะเข้าไปดูแลตามความเหมาะสม

"ค่าเงินบาทยังเคลื่อนไหวไปตามภูมิภาค ซึ่งตอนนี้ดอลลาร์อ่อนทั้งหมดเกิดจากปัจจัยต่างประเทศ ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศผู้ส่งออกมีการขายดอลลาร์หลังที่การส่งออกเติบโตดี เป็นอุปสงค์อุปทานปกติ"ผู้ว่าการ ธปท.กล่าว

ขณะนี้การส่งออกของไทยก็ขยายตัวได้ดีมาก ทำรายได้เป็นเงินตราต่างประเทศเข้ามามาก และเมื่อเทียบค่าเงินบาทกับประเทศข้างเคียงพบว่ามีการเคลื่อนไหวแข็งค่าในระดับกลางๆ โดยตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันเงินบาทแข็งค่าราว 5% ขณะที่เงินริงกิตมาเลเซียแข็งค่าที่สุด คือ 8% ขณะที่เงินรูเปี๊ยะห์อินโดนีเซียแข็งค่าใกล้เคียงเงินบาทที่ 5% แต่ยังมีประเทศที่ค่าเงินแข็งค่าน้อยกว่าไทย คือ ดอลลาร์สิงคโปร์ 3% และ เปโซฟิลิปปินส์ 2%

ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวว่า ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าการแข็งค่าของเงินบาทจะไปหยุดที่ระดับใด แต่หากการเคลื่นไหวยังเป็นไปในระดับเดียวกับภูมิภาค ก็มองว่าไม่ได้เป็นประเด็นปัญหา เพราะตอนนี้ส่งออกก็ขยายตัวดี โดยในเดือน พ.ค.53 ขยายตัวสูงถึง 43% และเดือน มิ.ย.53 ขยายตัวกว่า 40% ถือว่าดีมาก

ขณะที่การลงทุนในประเทศเริ่มมีมากขึ้นและแข็งแกร่งขึ้น ขณะที่การนำเข้าก็ขยายตัวเพิ่มขึ้น ดังนั้นอาจเป็นจังหวะที่ดีของเงินบาทแข็งค่าในการนำเข้าเพื่อปรับเปรุงกระบวนการผลิต โดยเฉพาะด้านเครื่องมือเครื่องจักรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของธุรกิจในระยะยาว ขณะเดียวกันนักลงทุนไทยมีความสนใจไปลงทุนต่างประเทศมากขึ้น ถือเป็นโอกาสดีที่ค่าเงินบาทแข็งค่ากว่าหลายประเทศในยุโรปและสหรัฐฯ

"เราไม่ได้ผันผวนมากกว่าประเทศอื่น แม้ว่าช่วงใกล้ๆ เงินบาทดูเหมือนจะแข็งค่า แต่เป็นผลสืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ที่เราไม่มีเงินเข้าเลย ส่วนเวลาเงินออกก็ออกไม่มาก แต่พอการเมืองนิ่ง บวกกับความเชื่อมั่นเร่งขึ้น เงินก็ไหลเข้ามาประเทศมากขึ้น ประกอบกับการส่งออกขยายตัวดี ทั้งหมดเป็นม้าตีนปลาย ช่วงนี้ค่าเงินบาทก็เลยดูแข็งนิดๆ

ไม่ได้กังวลว่าเราจะสูญเสียความสามารถด้านแข่งขัน ก็จะเข้าไปดูแลตามความจำเป็น ซึ่งวิธีการดูแลไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงไป เราไม่ทำอะไรผิดแนวโน้มของตลาด เราจะเข้าไปดูแลความผันผวน...แต่แนะนำให้ผู้ส่งออกนำเข้าทำ hedging ป้องกันความเสี่ยงค่าเงินด้วย"นางธาริษา กล่าว

ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยช่วงต้นครึ่งปีหลังยังไปได้ดี แม้ว่าจะชะลอลงจากครึ่งปีแรกบ้าง แต่ก็เป็นสิ่งที่คาดไว้ก่อนหน้านี้อยู่แล้ว ขณะนี้จึงยังไม่เหตุที่จะทำให้ต้องมีการประเมินการเปลี่ยนแปลง

"เศรษฐกิจขณะนี้ไม่ร้อนแรง ถ้าจะใช้คำว่าร้อนแรงก็เกินไป แต่เป็นสิ่งที่ ธปท.ระมัดระวังอยู่ อัตราเงินเฟ้อเป็นดัชนีชี้วัดที่ชัดเจน สิ่งที่ กนง.พิจารณาในการประชุมครั้งก่อน คือการทำนโยบายการเงินให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยขณะนี้แม้ว่าไม่เห็นปัญหาเรื่องเงินเฟ้อ แต่ในปี 54 เงินเฟ้อพื้นฐานอาจจะหลุดกรอบเป้าหมายของธปท. ดังนั้น ก็ต้องเร่งกลับเข้าสู่นโยบายการเงินปกติ ส่วนการประชุมสัปดาห์หน้าจะขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่ขึ้นกับกนง.พิจารณา"ผู้ว่าการ ธปท.กล่าว

สำหรับที่ธนาคารกลางเวียดนามประกาศลดค่าเงินดองลง 2% ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค. ซึ่งถือเป็นการประกาศลดค่าเงินดองครั้งที่ 3 นับตั้งแต่เดือนพ.ย.52 นั้น นางธาริษา กล่าวยืนยันว่า การลดค่าเงินดองครั้งนี้ไม่น่าจะกระทบต่อค่าเงินภูมิภาคมากนัก

นางสุชาดา กิระกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการสายตลาดการเงิน ธปท.กล่าวว่า ขณะนี้เงินทุนไหลเข้ามาลงทุนในตลาดตราสารหนี้มากกว่าตลาดหุ้น ทั้งตราสารหนี้ระยะสั้นและระยะยาว ส่วนหนึ่งเพราะตลาดหุ้นมีความผันผวน ทำให้นักลงทุนขาดคงวามมั่นใจ ขณะที่ยอมรับว่าส่วนหนึ่งเป็นการนำเงินเข้ามาพักเพื่อรอเก็งกำไรค่าเงินหยวน โดยมาอยู่ในตลาดตราสารหนี้ระยะสั้นเพื่อนกระจายความเสี่ยง ก่อนที่จะนำออกไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ