นักวิเคราะห์คาดการณ์กันในวงกว้างว่า ยอดการปล่อยกู้ใหม่ในเดือนส.ค.ของธนาคารพาณิชย์ในประเทศจีนจะยังคงปรับตัวลดลงในเดือนส.ค. มาอยู่ที่ระดับ 5 แสนล้านหยวน จากเดือนก.ค.ที่ระดับ 5.328 แสนล้านหยวน เนื่องจากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนชะลอตัวลง นอกจากนี้ การที่รัฐบาลใช้มาตรการควบคุมการปล่อยกู้ของธนาคารอย่างเข้มงวดจะส่งผลให้ความต้องการสินเชื่อลดลง และจะทำให้อัตราการขยายตัวของสินเชื่อชะลอตัวลง
นายเหว่ย เฟิงจุน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากไชน่า ซิเคียวริตีส์ กล่าวว่า อัตราการขยายตัวของสินเชื่อในเดือนส.ค.จะชะลอตัวลงอย่างช้าๆ เนื่องจากบริษัทเอกชนของจีนกำลังระบายสินค้าในสต็อก (de-stocking) และผลพวงของความต้องการสินเชื่อที่ลดน้อยลง
ด้านนายฟู ลีจุน นักวิเคราะห์จากเซาท์เวสต์ ซิเคียวริตีส์ ประมาณการว่า ยอดการปล่อยเงินกู้ใหม่ในเดือนส.ค.จะอยู่ที่ระดับ 5 แสนล้านหยวน อย่างไรก็ตาม นายฟูกล่าวว่า การปล่อยเงินกู้ของธนาคารจีนยังคงมีปริมาณมาก โดยเฉพาะเงินกู้ที่ปล่อยให้กับโครงการประหยัดพลังงาน และบริษัทขนาดกลางและขนาดย่อม ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ยอดการปล่อยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ขยายตัวขึ้นอีกในอนาคต
ขณะที่นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ กั๋วไท่ แอนด์ จวินอัน ซิเคียวริตีส์ คาดว่า ยอดการปล่อยเงินกู้ใหม่ของธนาคารจีนจะอยู่ที่ระดับ 4.50 แสนล้านหยวนในเดือนส.ค.และเดือนก.ย.
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า นโยบายด้านการเงินของจีนจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลงในอนาคตอันใกล้นี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน