นายอากุส มาร์โตวาร์โดโจ รัฐมนตรีคลังอินโดนีเซียออกโรงเตือนว่า อินโดนีเซียยังคงต้องเฝ้าระวังความเสี่ยงเกี่ยวกับภาวะการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เชื่องช้าในกลุ่มประเทศยุโรปที่อาจทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจซ้ำรอยขึ้นอีก
"เราขอเตือนว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในประเทศยักษ์ใหญ่บางประเทศไม่ได้เป็นไปตามที่เราคาดไว้ ดังนั้น อินโดนีเซียจึงต้องระมัดระวังต่อสถานการณ์เช่นนี้" นายอากุสกล่าว พร้อมทั้งเสริมว่า รัฐบาลจะจับตาความเคลื่อนไหวเรื่องเงินเฟ้อ รวมถึงติดตามความเป็นไปได้ในการเพิ่มสินค้ายอดส่งออก และหวังที่จะได้เห็นการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานที่เดินหน้าไปได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ อากุสกล่าวว่า รัฐบาลจะให้การสนับสนุนการพัฒนาภาคธุรกิจเพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพและเท่าเทียมกันในทุกพื้นที่
ขณะเดียวกัน นายอูมาร์ จูโอโร นักสังเกตุการณ์ด้านเศรษฐกิจจากศูนย์ศึกษาด้านการพัฒนาของอินโดนีเซีย (CIDES) กล่าวว่า แนวโน้มการพัฒนาเศรษฐกิจของอินโดนีเซียยังคงเหมือนเดิม แม้ว่าอินโดนีเซียจะเผชิญกับปัจจัยที่ไม่แน่นอนจากเศรษฐกิจโลกอยู่ก็ตาม แต่หากทั่วโลกไม่เผชิญกับวิกฤตการณ์ต่างๆ เศรษฐกิจอินโดนีเซียก็จะสามารถกระเตื้องขึ้นได้ ดังนั้น อินโดนีเซียจึงต้องเฝ้าระวังภาวะการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เริ่มช้าลงและสอดส่องดูแลด้านการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศอย่างรัดกุม
"เราจำเป็นต้องเพิ่มสินทรัพย์ทางการเงินผ่านการขายหุ้น IPO และอนุญาตให้นักลงทุนต่างชาติถือครองกรรมสิทธิ์ในสินทรัพย์บางประเภท รวมถึงกำหนดนโยบายใหม่ที่เอื้อให้นักลงทุนถือครองสินทรัพย์ในอินโดนีเซียนได้นานขึ้น" นายอูมาร์กล่าวขณะเดียวกัน รมว.คลังอินโดนีเซียกล่าวว่า รัฐบาลควรแก้ปัญหาเรื่องมาตรการกำกับดูแลและพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานให้ดีขึ้น และควรมีบทบาทในการส่งเสริมบรรยากาศการดำเนินธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมการผลิต เกษตรกรรม รวมถึงภาคอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ สำนักข่าวซินหัวรายงาน