จีนสั่งการให้ผู้นำระดับท้องถิ่นออกมาตรการควบคุมการพุ่งขึ้นของราคาอาหารด้วยการเพิ่มผลผลิตพืชผัก ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดด้านต้นทุนอาหารที่พุ่งสูงขึ้นในกลุ่มประเทศยากจน
คณะรัฐมนตรีจีนเปิดเผยว่า นายกเทศมนตรีของจีนได้รับคำสั่งให้เร่งดำเนินการสร้างความเชื่อมั่นถึงอุปทานพืชผักในตลาด โดยธนาคารของรัฐได้รับแจ้งให้ดำเนินการจัดสรรเงินกู้ให้กับผู้ผลิตสินค้าเกษตรเพื่อใช้ในการเพิ่มผลผลิตสินค้าท่ามกลางภาวะอุปทานขาดแคลนจากปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้งในบางพื้นที่
"การสร้างหลักประกันด้านผลผลิตพืชผัก และการสร้างเสถียรภาพด้านราคาอาหารถือเป็นภารกิจสำคัญทั้งในปัจจุบันและอนาคต" แถลงการณ์ของคณะรัฐมนตรีจีนระบุ "รัฐบาลท้องถิ่นควรเตรียมรับมือกับกระแสคาดการณ์เงินเฟ้อและตระหนักถึงความจำเป็นและความเร่งด่วนในการแก้ปัญหานี้"
ทั้งนี้ นอกจากประเทศจีนแล้ว วิกฤตราคาอาหารกำลังขยายวงกว้างไปยังประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะในโมซัมบิก และประเทศยากจนในเอเชีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกา หลังราคาอาหารในตลาดโลกทะยานขึ้น 6% ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา
โดยราคาอาหารของจีนในเดือนก.ค.พุ่งขึ้นสู่ระดับ 6.8% จากปีที่แล้ว ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อโดยรวมขยายตัวที่ 3.3% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในปีนี้ นอกจากนี้ จีนยังเผชิญกับปัญหาต้นทุนอาหารที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงที่ราคาพืชผักทะยานขึ้น 14.9% เมื่อเดือนเม.ย. ขณะที่ราคาผลไม้ถีบตัว 16.4%
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมั่นใจว่า อัตราเงินเฟ้อจะเคลื่อนไหวตามเป้าหมายที่ระดับ 3% ในปีนี้ แต่นักวิเคราะห์ภาคเอกชนมองว่าอัตราเงินเฟ้อโดยรวมในเดือนส.ค.พุ่งขึ้นเหนือระดับ 3.5% ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากราคาอาหาร
ทั้งนี้ จีนได้เน้นย้ำถึงความสำคัญในการสร้างหลักประกันด้านผลผลิตอาหารที่เพียงพอในปีนี้ และประกาศเอาผิดกับพ่อค้าที่ค้ากำไรเกินควร