สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (3 ก.ย.) เนื่องจากตัวเลขจ้างงานสหรัฐที่ดีเกินคาดช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้การลงทุนในทองคำดึงดูดใจน้อยลง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 2.3 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,251.1 ดอลลาร์/ออนซ์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 27.7 เซนต์ ปิดที่ 19.949 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 0.45 เซนต์ ปิดที่ 3.50 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.บวก 9.6 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,561.1 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 6.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 531.45 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm payroll) ปรับตัวลดลง 54,000 อัตราในเดือนสิงหาคม น้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะร่วงลงถึง 110,000 อัตรา ขณะที่ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนก็ปรับตัวสูงขึ้น 67,000 อัตราในเดือนสิงหาคม จากที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 41,000 อัตรา
ทันทีที่มีการเปิดเผยตัวเลขดังกล่าวราคาทองคำก็ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 วันที่ระดับ 1,239.20 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากข้อมูลนี้ทำให้นักลงทุนมีความหวังมากขึ้นเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ แต่หลังจากนั้นราคาทองคำก็ดีดกลับขึ้นมาอีกครั้งเมื่อสหรัฐเปิดเผยว่าภาคบริการขยายตัวช้าลงในเดือนสิงหาคมเมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม
โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีชี้วัดกิจกรรมทางธุรกิจนอกภาคการผลิต (NMI) ซึ่งเป็นตัววัดการทำกิจกรรมในภาคบริการ ขยายตัวช้าลงแตะ 51.5 จุดในเดือนสิงหาคม จากระดับ 54.3 จุดในเดือนกรกฎาคม