นายอัครพล ลีลาจินดามัย ผู้ช่วยเลขานุการ รมว.พาณิชย์ ประธานคณะอนุกรรมการเพื่อรับฟังความคิดเห็นของภาคเอกชนเรื่องการจัดทำความตกลงการค้าเสรี(FTA) ไทย-สหภาพยุโรป เปิดเผยถึงการรับฟังความคิดเห็นของเอกชนไทยเกี่ยวกับการเปิดเสรีสาขาโทรคมนาคม หลังจากที่ภาคเอกชนมีข้อเสนอเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นความมั่นคงและการลงทุนของต่างชาติว่า เอกชนที่ไม่เห็นด้วยกับการเปิดเสรี ให้เหตุผลว่าไทยยังไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะแข่งขันกับทุนของต่างชาติ โดยประเด็นสำคัญอยู่ที่การตีความกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนของต่างชาติว่านับรวมถึงรัฐวิสาหกิจข้ามชาติที่มีเงินทุนมหาศาลหรือไม่ และยังกังวลเกี่ยวกับการครอบงำกิจการ และประเด็นความมั่นคงที่อาจอยู่ในมือรัฐบาลต่างชาติ
ส่วนผู้ประกอบการที่เห็นด้วย ให้เหตุผลว่าไทยจะได้รับประโยชน์จากการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากอียู เพื่อพัฒนาศักยภาพในการให้บริการ โดยประชาชนจะได้รับประโยชน์จากการให้บริการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นจากแข่งขันที่มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนส่วนใหญ่ยอมรับว่าสถานการณ์ในปัจจุบันของภาคโทรคมนาคมจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงอยู่แล้ว อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากไทยกำลังจะเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) ในปี 58 และไทยต้องเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของต่างชาติจากเดิม 49% เป็น 70% ภายในปี 54 ซึ่งเป็นประเด็นที่ภาครัฐจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบและรัดกุม เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศ เพราะเกี่ยวพันกับประเด็นร่างประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กทช.) ที่มีการถกเถียงอยู่ในขณะนี้ และยังเกี่ยวพันกับการปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวด้วย