นายอัลมา จิเมเนซ ผู้ว่าการท่องเที่ยวของฟิลิปปินส์ (Tourism Congress) เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการท่องเที่ยวของฟิลิปินส์มีความมั่นใจว่าการท่องเที่ยวของประเทศจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นักท่องเที่ยวถูกจับเป็นตัวประกันเมื่อเดือนที่แล้วก็ตาม
โดยนายจิเมเนซ ระบุในแถลงการณ์ของการท่องเที่ยวว่า "แน่นอนว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องใหญ่โตและส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อฟิลิปปินส์และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ แต่เรายังเชื่อว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายที่ทั้งภาครัฐบาลและเอกชนวางเอาไว้ได้"
ทั้งนี้ ได้เกิดเหตุอดีตนายตำรวจอาวุโสของฟิลิปินส์บุกยึดรถทัวร์และจับนักท่องเที่ยวชาวฮ่องกงที่อยู่บนรถเป็นตัวประกันเมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวเสียชีวิตทั้งหมด 8 คนในปฏิบัติการชิงตัวประกันของตำรวจ
การท่องเที่ยวของฟิลิปปินส์มีเป้าหมายดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าประเทศจำนวน 3.3 ล้านคนในปี 2553 แต่ยังคงมีความวิตกกังวลว่าจำนวนนักท่องเที่ยวอาจลดลงเนื่องจากผลการปฏิบัติการชิงตัวประกันที่ล้มเหลว
โดยนายจิเมเนซ กล่าวว่า องค์กรที่เป็นสมาชิกของการท่องเที่ยวฟิลิปปินส์ได้ร่วมมือกันจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อแก้ไขภาพลบของประเทศ ขณะที่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวภาคเอกชนได้จัดการประชุมร่วมกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั้งในยุโรป อเมริกาเหนือ เกาหลีใต้ และประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นอกจากนี้ สมาคมองค์กรเพื่อสุขภาพยังได้ร่วมส่งเสริมการท่องเที่ยวของฟิลิปปินส์ในฐานะจุดหมายปลายทางสำหรับการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ ด้วยการเข้าร่วมงาน Employer Health Care Congress and World Medical Tourism Congress ซึ่งจะจัดขึ้นในลอสแองเจลีสในเดือนกันยายนนี้