(เพิ่มเติม) "ศุภวุฒิ"คาดธปท.ใช้มาตรการแก้บาทไม่กระทบรุนแรง/โบรกฯเผยข่าวลือกดดัชนี

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday September 14, 2010 17:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายศุภวุฒิ สายเชื้อ กรรมการผู้จัดการสายวิจัย บล.ภัทร กล่าวว่า ขณะนี้เกิดข่าวลือในตลาดว่าธนาคารแห่งประเทศ(ธปท.)จะประกาศใช้มาตรการเพื่อควบคุมการไหลเข้าของกระแสเงินทุนต่างประเทศที่ค่อนข้างรุนแรงซึ่งทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างมาก แต่เชื่อว่า ธปท.จะใช้มาตรการในรอบนี้เพื่อกระแสเงินทุนไหลเข้า แต่คงไม่ใช่มาตรการที่มีผลกระทบต่อตลาดรุนแรงเหมือนในอดีตที่เคยใช้มาตรการ 30% สำรองเงินทุนระยะสั้นที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยร่วงลงอย่างหนัก

ทั้งนี้ ผลจากการที่เงินบาทแข็งค่าอย่างรวดเร็วจนส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง จึงคาดว่าจะนำไปสู่การใช้มาตรการควบคุมเงินทุนนำเข้าในเร็วๆ นี้ เพื่อชะลอการแข็งค่าของเงินบาทไม่ให้รวดเร็วจนเกินไป การใช้มาตรการของทางการไทยจะเป็นไปเพียงเพื่อให้ภาคธุรกิจที่แท้จริงของประเทศที่ได้รับผลกระทบได้ปรับตัวได้ทัน แต่คงไม่อาจต้านทานการแข็งค่าของเงินบาทได้

ส่วนสาเหตุที่เงินบาทแข็งค่าขึ้น เนื่องมาจากขณะนี้มีเม็ดเงินจากยุโรปไหลเข้ามาแสวงหาแหล่งลงทุน ซึ่งเป็นผลจากการที่รัฐบาลยุโรปไม่อาจแก้ปัญหาเศรษฐกิจโดยใช้นโยบายการการคลังได้ จึงใช้นโยบายการเงินแทนด้วยการกดอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำลง ทั้งนี้ นโยบายดอกเบี้ยของไทยยังคงไม่น่ากังวลมากนักเนื่องจากยังคงอิงกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐอเมริกาด้วย

นายศุภวุฒิ ประเมินว่า หาก ธปท.จะนำมาตรการมาใช้สกัดเงินทุนไหลเข้าน่าจะเป็นมาตรการที่มีผลกระทบรุนแรงน้อยกว่ามาตรการ 30% โดยการนำมาปรับใช้ให้รุนแรงน้อยลง หรืออาจจะออกมาตรการการเงินใหม่ เช่น หากเงินไหลเข้ามาลงทุนในพันธบัตรต้องถือไว้จนกว่าจะหมดอายุ หรือการเก็บภาษีทั้งขาเข้าขาออก 1%

“นักลงทุนต่างชาติมีความกังวลเป็นเหตุผลที่เข้าใจได้ เพราะเงินไหลเข้าสูงมากเมื่อเทียบกับปี 49 เพราะ 8 เดือนมีเงินไหลเข้าในพันธบัตร 1 แสนล้านบาท แต่เฉพาะเดือน ก.ย. 10 กว่าวันมีเงินไหลเข้าวันละ 5 พันล้านบาท และตลาดหุ้นปีนี้จะไม่ถึง 1 พันจุด เพราะยังมีปัจจัยกดดันตลาดหุ้นไทยอยู่"นายศุภวุฒิ กล่าว

ขณะที่แหล่งข่าวจากวงการโบรกเกอร์ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลดลงเนื่องจากถูกกดดันจากความกังวลกระแสข่าวลือในห้องค้าที่เชื่อว่า ธปท.จะออกมาตรการบางอย่างเพื่อสกัดกั้นเงินทุนไหลเข้า โดยบางกระแสระบุว่าจะมีการประกาศมาตรการในช่วงเย็นวันนี้หรือพรุ่งนี้เช้า

อย่างไรก็ตาม มองว่ามาตรการที่นำมาใช้ไม่น่าจะมีผลกระทบตลาดมาก และเชื่อว่าจะสกัดกั้นได้ลำบาก เพราะดูอย่างธนาคารกลางญี่ปุ่นยังไม่สามารถสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินเยนได้ เนื่องจากเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วทั้งภูมิภาค จึงเป็นช่วงโอกาสที่จะเข้าซื้อหุ้นเพื้นฐานดีที่ต่างชาติมักจะเข้าลงทุน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ