นายอลัน กรีนสแปน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐมีประสิทธิภาพน้อยกว่าที่หลายฝ่ายคาดหวังไว้มาก
กรีนสแปนกล่าวแสดงความคิดเห็นในการประชุมที่สภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศว่า ขณะนี้ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลสหรัฐต้องวางมือ และปล่อยให้ภาคธุรกิจและตลาดขับเคลื่อนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจด้วยตัวเอง โดยชี้ว่า เศรษฐกิจจำเป็นต้องอาศัยเวลาในการเยียวยาตัวเอง
นอกจากนี้ กรีนสแปนชี้ว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพจะช่วยเพิ่มมูลค่าราคาในตลาดหุ้นได้มากกว่าที่จะทำให้รัฐบาลต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และด้วยความที่สหรัฐมีหลักทรัพย์ equity premium อยู่มาก ดังนั้น ช่วงขาขึ้นของราคาหุ้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะมาตรการกระตุ้นภาคการเงินจะมีประสิทธิภาพมากที่สุดก็ต่อเมื่อมูลค่าในตลาดหุ้นปรับตัวสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม กรีนสแปนเตือนว่า วิกฤตขาดดุลงบประมาณของสหรัฐเป็นปัญหาที่ร้ายแรงกว่าที่ประชาชนรับรู้กันมาก ซึ่งหากรัฐบาลไม่สามารถลดยอดขาดดุลลงมาได้ ปัญหาขาดดุลงบประมาณจะยิ่งบานปลายมากขึ้น
ขณะเดียวกัน อดีตประธานเฟดเริ่มเห็นด้วยกับการขึ้นภาษีเพื่อควบคุมตัวเลขขาดดุลงบประมาณโดยระบุว่า "หากเรายังรีรอเรื่องการปรับขึ้นภาษี ผมเชื่อว่าสหรัฐจะเผชิญกับปัญหาที่รุนแรงมากในอนาคต"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กรีนสแปน วัย 84 ปี ดำรงตำแหน่งประธานเฟดในปีพ.ศ.2530 - 2549 และเป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านเศรษฐกิจในช่วงก่อนเกิดวิกฤตการเงิน