นายอู๋ เสี่ยวหลิง อดีตรองผู้ว่าการธนาคารกลางจีนแนะนำให้จีนพัฒนาธุรกิจสินเชื่อลีซซิ่ง (financial leasing) ซึ่งจะช่วยควบคุมปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ และกระตุ้นการฟื้นตัวของตลาดการเงิน
โดยอัตราส่วนของปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศอยู่ที่ 180% ซึ่งถือเป็นระดับที่สูงมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆทั่วโลก อย่างไรก็ตาม นายอู๋กล่าวว่าธุรกิจสินเชื่อลีสซิ่งอาจจะช่วยควบคุมกระแสเงินกู้
-- ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า ยอดการปล่อยเงินกู้ครั้งใหม่ของจีนจะลดลงต่อไปจากระดับเดือนส.ค. และขนาดของเงินกู้ครั้งใหม่คาดว่า จะต่ำกว่าระดับ 5 แสนล้านหยวน พร้อมกับกล่าวว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนขยายตัวได้ดีกว่าการคาดการณ์ของตลาด และฟื้นตัวขึ้นแล้วในเดือนส.ค. จึงเชื่อว่าทางการจีนจะควบคุมตลาดอสังหาฯต่อไป
ในทางตรงกันข้ามนั้น เงินกู้ที่ได้มีการอนุมัติผ่านทางสถาบันการเงินท้องถิ่นของรัฐบาลยังไม่มีแนวโน้มว่า จะปรับตัวขึ้นมากจนกว่าสถาบันการเงินต่างๆจะได้รายงานผลการตรวจสอบสถานะทางการเงินอีกครั้งก่อนที่จะถึงช่วงสิ้นเดือนต.ค.
-- การขยายธุรกิจของธนาคารต่างประเทศในจีนนั้นมีความแข็งแกร่งขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้ โดยมีการขยายตัวได้ดีแม้ในช่วงที่เกิดวิกฤตการเงินระหว่างประเทศ
ผู้บริหารธนาคารต่างประเทศได้วางแผนที่จะเพิ่มการกระจายเครือข่ายในจีน แบงค์ ออฟ อีสต์ เอเชีย และสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด แบงค์ ได้เปิดสาขาไปแล้วหลายแห่งเมื่อเร็วๆนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน