สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นเหนือระดับ 1,310 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกเมื่อคืนนี้ (29 ก.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการอ่อนตัวลงของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ อันเนื่องมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า เศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐอาจจะบีบให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (Quantitative Easing) หรือ QE
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 2.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,310.30 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,306.10 - 1,314.80 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 24.50 เซนต์ ปิดที่ 21.952 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 2.45 เซนต์ ปิดที่ 3.6615 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 15.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,656.60 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 6.85 ดอลลาร์ ปิดที่ 567.30 ดอลลาร์/ออนซ์
ค่าเงินดอลลาร์ยังคงร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลหลักๆ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับสกุลยูโรแล้ว ดอลลาร์ดิ่งลงไปแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าภาวะเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นที่อ่อนแออาจทำให้เฟดตัดสินใจใช้มาตรการ QE ด้วยการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงิน ซึ่งการดำเนินมาตรการดังกล่าวจะส่งผลกระทบให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงไปอีก
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่า อินเดียกำลังเข้าซื้อทองคำในปริมาณมากก่อนที่เทศกาลเฉลิมฉลองและเทศกาลวิวาห์ในอินเดียจะเริ่มขึ้น
สภาทองคำโลก (World Gold Council - WGC) รายงานว่า อินเดียเข้าซื้อทองคำเป็นจำนวนมากในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ และมีแนวโน้มว่าจะซื้อเพิ่มขึ้นไปจนถึงสิ้นปีนี้ เพราะโดยปกติในช่วงเดือนต.ค.-ธ.ค.มักเป็นช่วงที่ยอดขายอัญมณีในอินเดียพุ่งขึ้นสูงสุด เนื่องจากมีผู้ซื้ออัญมณีไปใช้ในเทศกาลวิวาห์ และเทศกาล "ทิวาลี" ของศาสนาฮินดู ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 5 พ.ย.นี้ นอกจากนี้ ชาวอินเดียยังนิยมซื้ออัญมณีไปใช้ในพิธีอื่นๆทางศาสนาอินดูด้วย