สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดระดับใหม่เมื่อคืนนี้ (5 ต.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ตัดสินใจใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งความเคลื่อนไหวของบีโอเจทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะตัดสินใจใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (Quantitative Easing) หรือ QE ในการประชุมต้นเดือนหน้านี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 23.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,340.30 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,313.30 - 1,342.60 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 70.10 เซนต์ ปิดที่ 22.737 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 6.25 เซนต์ ปิดที่ 3.7265 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 28.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,700.70 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 16.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 578.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาทองคำได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่ร่วงเมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่ของสหรัฐ หลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่นมีมติให้ลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับ 0-0.1% พร้อมกับจัดตั้งกองทุนวงเงิน 35 ล้านล้านเยน (4.19 แสนล้านดอลลาร์) เพื่อซื้อพันธบัตรรัฐบาล ตราสารเชิงพาณิชย์ และหลักทรัพย์ที่มีสินทรัพย์ค้ำประกัน
การตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยและใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินครั้งนี้นับเป็นการดำเนินการที่เหนือความคาดหมายของตลาด และทำให้นักลงทุนความเคลื่อนไหวของบีโอเจจะกระตุ้นให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (Quantitative Easing) หรือ QE ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ย.นี้ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะยิ่งทำให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงอีก
เทรดเดอร์ในตลาดทองคำ COMEX กล่าวว่า มาตรการผ่อนคลายทางการเงินของญี่ปุ่นเป็นปัจจัยหลักที่ทุบสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงและช่วยหนุนทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดระดับใหม่ พร้อมกับคาดการณ์ว่า สัญญาทองคำจะทะยานขึ้นแตะระดับ 1,500 ดอลลาร์/ออนซ์ภายในปลายปีนี้ และมีความเป็นไปได้ที่จะพุ่งขึ้นไปแตะระดับ 2,500 ดอลลาร์ในปีหน้า
ราคาทองคำทะยานขึ้นไปแล้ว 20% นับตั้งแต่ต้นปี 2553 เป็นต้นมา และทำสถิติพุ่งขึ้นรายปีติดต่อกันยาวนานถึง 10 ปี นอกจากนี้ วอลุ่มการซื้อขายในตลาดทองคำยังมีสูงกว่าตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรทั่วโลก ซึ่งทำให้ทองคำกลายเป็นแหล่งการลงทุนที่ได้รับความสนใจมากที่สุด
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางคนมองว่า การที่ราคาทองคำพุ่งขึ้นติดต่อกันยาวนานเช่นนี้อาจทำให้ตลาดทองคำเข้าสู่ระยะพักฐาน และคาดว่าราคาทองคำอาจจะปรับตัวลดลงประมาณ 80-100 ดอลลาร์ในอีกหลายสัปดาห์ข้างหน้านี้