ผลการศึกษาของบริษัทที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยี ฟรอสท์ แอนด์ ซัลลิแวน ชี้ว่าการใช้บริการโมบายล์อินเทอร์เน็ตจะช่วยกระตุ้นดีมานด์การใช้สมาร์ทโฟนในเอเชียแปซิฟิค โดยคาดว่ายอดขายโทรศัพท์มือถือประมาณ 54% ที่จำหน่ายในเอเชียแปซิฟิคภายในปี 2558 จะเป็นยอดขายมือถือแบบสมาร์ทโฟน ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ก้าวกระโดดจากอัตราการขยายตัวที่ 5% ในช่วงสิ้นปี 2552
ตัวเลขดังกล่าวหมายความว่า ยอดขายสมาร์ทโฟนในเอเชียแปซิฟิคจะอยู่ที่ประมาณ 477 ล้านเครื่องในปี 2558 และยอดการใช้บริการข้อมูลจากสมาร์ทโฟนจะทำรายได้มูลค่ากว่า 3.8 หมื่นล้านดอลลาร์ให้กับผู้ให้บริการในเอเชียแปซิฟิค ซึ่งเป็นตัวเลขที่พุ่งสูงขึ้นจากระดับรายได้ที่ราว 1.3 พันล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว
โดยปกติแล้ว สมาร์ทโฟนจะสามารถเชื่อมต่อเครือข่าย 3G ซึ่งทำให้การใช้บริการโมบายล์อินเทอร์เน็ตรวดเร็วขึ้น ผลการศึกษายังชี้ด้วยว่า การใช้โมบายล์อินเทอร์เน็ตมีแนวโน้มขยายตัวขึ้น ส่งผลให้บริษัทโทรคมนาคมทั้งหลายต้องช่วงชิงเพื่อหาโอกาสในการทำตลาด
มาร์ค ไอน์สไตน์ ผู้จัดการด้านอุตสาหกรรมของฟรอสท์ แอนด์ ซัลลิแวน กล่าวว่า สมาร์ทโฟนมีความสำคัญสำหรับธุรกิจบรอดแบนด์ไร้สายของผู้ให้บริการทุกสำนัก เนื่องจากโดยปกติแล้ว รายได้เฉลี่ยต่อเลขหมาย (ARPU) จะเพิ่มขึ้น 25-100% หลังจากที่เริ่มมีการใช้บริการ ซึ่งการเพิ่มขึ้นของ ARPU ก็ขึ้นอยู่กับตลาดแต่ละแห่งด้วย โดยเฉพาะตลาดเอเชียแปซิฟิคนั้น มีความน่าสนใจในแง่ของสมาร์ทโฟน เนื่องจากการใช้งานในตลาดเกิดใหม่ที่สูงขึ้น เช่น จีน อินเดีย และอินโดนีเซีย แม้แต่ในกลุ่มผู้ใช้บริการแบบพรีเพดก็ตาม
ฟรอสท์ แอนด์ ซัลลิแวน ระบุว่า ยอดขายสมาร์ทโฟนในเอเชียแปซิฟิคเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในทุกตลาด เนื่องจากประเทศพัฒนาแล้วอย่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เองก็กำลังเปลี่ยนแปลงจากการใช้โทรศัพท์มือถือทั่วไปไปเป็นสมาร์ทโฟน ส่วนผู้ให้บริการในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ก็กำลังผลักดันสมาร์ทโฟนให้ได้รับความนิยม ด้วยการอัพเกรดบริการจาก 2G ไปเป็น 3G
นอกจากนี้ บริการโซเชียลเน็ทเวิร์คบนอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ก็ถือเป็นอีกปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้การใช้สมาร์ทโฟนเพิ่มสูงขึ้นในทุกประเทศแถบเอเชีย สำนักข่าวซินหัวรายงาน