ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลบในวันนี้ (7 ต.ค.) หลังจากเงินเยนพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดยังคงได้แรงหนุนจากมาตรการผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ)
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดลบ 6.62 จุด หรือ 0.07% แตะที่ 9,684.81 จุด
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดในวันนี้ ตามด้วยหุ้นกลุ่มค้าปลีกและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ส่วนหุ้นกลุ่มสายการบิน กลุ่มผลิตภัณฑ์ยาง กลุ่มประมงและป่าไม้ ปรับตัวลดลง
หลังจากดัชนีนิกเกอิทะยานขึ้นกว่า 3% ในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรในวันนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากเงินเยนที่พุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ตลาดยังคงได้แรงหนุนจากการที่บีโอเจตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ช่วง 0-0.1% พร้อมกับอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจด้วยการจัดตั้งกองทุนซื้อพันธบัตร
ทสึโยชิ เซกาว่า นักวิเคราะห์จากบริษัทมิซูโฮ ซิเคียวริตีส์ กล่าวว่า หุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นหุ้นที่ต้องพึ่งพาดีมานด์ภายในประเทศ ได้รับประโยชน์อย่างมากจากมาตรการผ่อนคลายด้านการเงินของบีโอเจ
เงินเยนยังแข็งค่าขึ้นแม้บีโอเจใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงิน โดยหุ้นบริษัทส่งออกได้รับผลกระทบหนักสุด เพราะเงินเยนที่แข็งค่าจะส่งผลให้กำไรในตลาดต่างประเทศของบริษัทญี่ปุ่นหดตัวลงด้วย
ส่วนตลาดหุ้นนิวยอร์กผันผวนเมื่อคืนนี้ หลังจาก ADP Employer Services รายงานว่าภาคเอกชนในสหรัฐลดการจ้างงานลง 39,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าภาคเอกชนจะเพิ่มการจ้างงาน 24,000 ตำแหน่ง ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้เกิดการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (Quantitative Easing) หรือ QE เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ