IVL คาดปี 54 ลงทุนสร้าง รง.ใหม่ ที่อินเดีย-ตอ.กลาง 1.2 พันล้านเหรียญ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 15, 2010 17:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส(IVL) คาดว่า บริษัทจะใช้เงินลงทุนประมาณ 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐในการสร้างโรงงานผลิตเม็ดพลาสติก PET ขนาดกำลังผลิต 5 แสนตัน/ปี และเส้นใยสังเคราะห์โพลีเอสเตอร์(PTA) ขนาดกำลังการผลิต 1 ล้านตัน/ปี ที่ประเทศอินเดียและแถบตะวันออกกลาง

เนื่องจากอินเดียเป็นประเทศที่มีความต้องการใช้เม็ดพลาสติก PET สูงถึง 3.5 แสนตัน/ปีและเป็นประเทศใหญ่ประเทศเดียวที่บริษัทยังไม่ได้เข้าไปลงทุน หลังจากได้เข้าซื้อกิจการใหม่ในจีนไปแล้ว ส่วนในตะวันออกกลาง เห็นว่าเป็นพื้นที่ใกล้แหล่งวัตถุดิบต้นน้ำของ PET อย่างไรก็ตาม บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ผลิตวัตถุดิบ จึงจะตัดสินใจอีกครั้งว่าจะใช้พื้นที่ใดในการก่อสร้างโรงงาน

แม้ว่างบลงทุนในการก่อสร้างโครงการตั้งแต่เริ่มต้นจะมีต้นทุนสูงถึง 500 เหรียญสหรัฐ/ตัน สูงกว่าการเข้าซื้อกิจการที่มีต้นทุนที่ประมาณ 230 เหรียญสหรัฐ/ตัน แต่ยอมรับว่าที่ผ่านมาเป็นเรื่องค่อนข้างยากมากขึ้นในการเข้าซื้อกิจการ

อนึ่ง ในช่วงสัปดาห์ก่อน IVL ประกาศเข้าซื้อกิจการผลิตเม็ดพลาสติก PET และเส้นใยสังเคราะห์ PTA ทั้งหมด 3 แห่ง ประกอบด้วย กิจการของ บริษัท Guangdong Shinda UHMWPE Co.,Ltd. ในจีน ประกอบธุรกิจผลิตเม็ดพลาสติก PET และโพลีเอสเตอร์ เส้นใยและเส้นด้าย และผลิตภัณฑ์อื่นที่ใช้ในอุตสาหกรรม กำลังการผลิตรวม 4.06 แสนตัน/ปี

นอกจากนี้ ยังเข้าซื้อโรงงาน 2 แห่งของกลุ่มบริษัท Invista ประกอบด้วยโรงงานที่ Spartanburg ในสหรัฐฯ กำลังการผลิตเม็ดพลาสติก PET และ Specialty Polymers เส้นใยและฟิล์ม รวม 4.7 แสนตัน/ปี และโรงงานที่ Queretaro ประเทศเม็กซิโก ซึ่งมีกำลังการผลิตเม็ดพลาสติก PET Specialty Polymer และไฟเบอร์ รวม 5.35 แสนตัน/ปี

นายอาลก กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทเข้าซื้อกิจการเป็นเงินถึง 760 ล้านเหรียญสหรัฐทั้งที่เม็กซิโก สหรัฐ และจีน ซึ่งในการลงทุนในจีนใช้เงินประมาณ 90 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าจะมีข้อสรุปภายในปี 54 ซึ่งอุตสาหกรรมเม็ดพลาสติก PET ในจีนเติบโตอย่างรวดเร็วและจีนเป็นประเทศที่มีการบริโภคสูงสุดในโลก การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ทำให้บริษัทเป็นผู้ผลิตเม็ดพลาสติก PET รายใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับบริษัทได้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังเน้นการเติบโตในการขยายกิจการอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายในอนาคตที่จะเพิ่มกำลังการผลิตเป็นสองเท่าจากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิต 5.4 ล้านตันในไตรมาส 4/53 ซึ่งจะมาจากทั้งจากการซื้อกิจการและการลงทุนสร้างด้วยตัวเอง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ