ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดขยับขึ้นในวันนี้ (17 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อผลประกอบการของบริษัทสหรัฐ อย่างไรก็ตาม นิกเกอิขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเนื่องจากภาวะการซื้อขายโดยรวมถูกกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นจีน อันเนื่องมาจากความกังวลที่ว่าทางการจีนจะใช้มาตรการทางการที่เข้มงวดมากขึ้น
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดบวก 3.82 จุด หรือ 0.04% แตะที่ 10,502.86 จุด
หุ้นกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำมันและถ่านหินร่วงลงหนักสุดในวันนี้ ตามด้วยหุ้นกลุ่มหลักทรัพย์ และกลุ่มอุปกรณ์ขนส่ง ส่วนหุ้นกลุ่มประมงและป่าไม้ กลุ่มคลังสินค้า และกลุ่มผลิตภัณฑ์โลหะ ดีดตัวขึ้น
ตลาดหุ้นโตเกียวดีดตัวขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้า เนื่องจากนักลงทุนมีมุมองที่เป็นบวกต่อผลประกอบการของบริษัทสหรัฐ หลังจากเจพีมอร์แกน เปิดเผยว่า ธนาคารมีรายได้สุทธิในไตรมาส 4 ปี 2553 เพิ่มขึ้น 47% สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีท ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง
แต่ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นโตเกียวเริ่มซบเซาลง เมื่อตลาดหุ้นจีนร่วงลงอย่างหนักในช่วงบ่าย หลังจากธนาคารกลางจีนประกาศเพิ่มสัดส่วนการกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ 0.50% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค.เป็นต้นไป ซึ่งมีเป้าหมายที่จะควบคุมเงินเฟ้อ
ยูทากะ มิอุระ นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจากมิซูโฮ ซิเคียวริตีส์ กล่าวว่า "ตลาดหุ้นจีนร่วงลงอย่างหนักหลังจากจีนประกาศเพิ่มเพดานสำรองเงินฝาก ซึ่งฉุดตลาดหุ้นโตเกียวอ่อนตัวลงด้วย เราคาดว่าตลาดหุ้นสหรัฐและญี่ปุ่นจะเข้าสู่ระยะพักฐานหลังจากพุ่งขึ้นแข็งแกร่งนับตั้งแต่เดือนพ.ย. และหลังจากที่จีนตัดสินใจควบคุมเงินเฟ้อในช่วงเวลาที่นักลงทุนมีความระมัดระวังในการซื้อขายหุ้น"