หุ้นในกลุ่มแบงก์ร่วงยกแผง โดยเมื่อเวลา 11.20 น.ดัชนีกลุ่มแบงก์อยู่ที่ 385.53 จุด ลดลง 8.09 จุด(-2.06%)
เมื่อเวลา 11.24 น. หุ้นที่มีการปรับตัวลงมากสุด 4 อันดับแรก ด้วยมูลค่าการซื้อขายเข้ามาอย่างคึกคัก ได้แก่
หุ้น KBANK ราคาอยู่ที่ 118.50 บาท ลดลง 4.50 บาท(-3.66%)มูลค่าซื้อขาย 927.73 ล้านบาท
หุ้น KTB ราคาอยู่ที่ 17.80 บาท ลดลง 0.50 บาท(-2.73%)มูลค่าซื้อขาย 509.95 ล้านบาท
หุ้น BBL ราคาอยู่ที่ 160.00 บาท ลดลง 4.00 บาท(-2.44%)มูลค่าซื้อขาย 484.33 ล้านบาท
หุ้น SCB ราคาอยู่ที่ 98.50 บาท ลดลง 1.25 บาท(-1.25%)มูลค่าซื้อขาย 419.50 ล้านบาท
นายธนัท รังษีธนานนท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า หุ้นในกลุ่มแบงก์ร่วงลงในเช้านี้ มองว่าเกิดจาก 2 ปัจจัย คือ ตามแรงขายหุ้นกลุ่มแบงก์ในตลาดภูมิภาค หลังจากมีความกังวลต่อความผันผวนของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะประเทศจีน ประกอบกับ มีแรงขายทำกำไรหลังจากธนาคารส่วนใหญ่ได้ทยอยประกาศผลประกอบการออกมาแล้ว
"วันนี้ที่ลงมาจาก 2 ปัจจัย คือ ตามความผันผวนของต่างประเทศที่ราคาหุ้นแบงก์ในภูมิภาคลดลง ซึ่งก็ทำให้เกิดความเสี่ยงในภาพกว้างขึ้นก็กระทบตลาดเราไปด้วย และตอนนี้ก็มีการประกาศงบฯออกมาเกือบหมดแล้วก็ทำให้มีการขายทำกำไรออกมา"นายธนัท กล่าวทั้งนี้ มองว่าผลประกอบการปี 53 ของกลุ่มแบงก์ที่ประกาศออกมา โดยรวมอยู่ในเกณฑ์ที่ดีทั้งในแง่ของสินเชื่อ และNPL จึงยังคงแนะนำหาจังหวะ"ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว" เนื่องจากมองว่าภาพรวมในระยะกลางและระยะยาวยังดีอยู่ แนะนำแบงก์ใหญ่ทั้ง SCB , KBANK , KTB