ตลาดหลักทรัพย์ ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 976.59 จุด ลดลง 29.98 จุด(-2.98%) มูลค่าการซื้อขาย 17,346.91 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนลบตลอดช่วงเช้า โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 999.59 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 976.09 จุด
นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิจัย บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงแรงกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค หลังนักลงุทนต่างชาติขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยมองว่านักลงทุนช่วงนี้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม Fund Manager ที่มีการขายทำกำไรในตลาดฯที่เห็นว่ายังไม่ได้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้เหมาะสมเพื่อปกป้องปัญหาเงินเฟ้อในอนาคต ทั้งตลาดหุ้นไทย อินเดีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์
ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งก็เป็นนักลงทุนทั่วไปที่กังวลว่าจีนจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จึงได้ขายหุ้นออกมาก่อนเพื่อลดความเสี่ยง ซึ่งเหตุผลของทั้ง 2 กลุ่ม อาจจะขัดแย้งกันแต่ก็ถือเป็นปัจจัยที่ทำให้ตลาดฯปรับตัวลงมา
ด้านปัจจัยในประเทศก็มีเรื่องการเมืองที่ความกังวลเรื่องการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายวรุตม์ กล่าวว่า ตลาดฯอาจจะชะลอการปรับลง และเริ่มมีเม็ดเงินกลับเข้ามาซื้อ พร้อมให้แนวรับ 970 จุด แนวต้าน 990 และ 1,000 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,941.02 ล้านบาท ปิดที่ 758.00 บาท ลดลง 26.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,133.26 ล้านบาท ปิดที่ 330.00 บาท ลดลง 9.00 บาท
IRPC มูลค่าการซื้อขาย 896.62 ล้านบาท ปิดที่ 5.50 บาท ลดลง 0.10 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 684.76 ล้านบาท ปิดที่ 113.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 629.64 ล้านบาท ปิดที่ 96.00 บาท ลดลง 1.50 บาท