TNDT คาดปี 54รายได้-กำไรดีกว่าปี 53,ตั้งบ.ร่วมทุนลาว-เวียดนาม Q1-Q2/54

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 16, 2011 15:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวชมเดือน ศตวุฒิ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทย เอ็น ดี ที(TNDT)คาดในปี 54 กำไรและรายได้จะดีขึ้นกว่าปี 53 เพราะในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมายังไม่เห็นสัญญาณการเลื่อนโครงการต่าง ๆ และเริ่มมีงานใหม่เข้ามาบ้างแล้ว อีกทั้งปีนี้อัตรากำไรสุทธิน่าจะมากกว่า 15% เพราะปีนี้น่าจะมีงานมากขึ้น เนื่องจากมองแนวโน้มธุรกิจน่าจะสดใสกว่าปีที่แล้วและจะมีการเลือกตั้งใหม่ ซี่งจะมีงานมากขึ้น รวมทั้งงานในต่างประเทศเพิ่มขึ่นด้วยทำให้อัตรากำไรสุทธิดีขึ้นด้วย

ส่วนรายได้และกำไรในปี 53 ลดลงจากปี 52 โดยรายได้คาดว่าจะไม่ถึง 300 ล้านบาท เนื่องจากหลายโครงการเลื่อนออกไปจากความไม่มั่นใจของนักลงทุน และความไม่มีเสถียรภาพทางการเมือง แม้ว่างานจะไม่ได้ถูกยกเลิก แต่เลื่อนออกไปทำให้เกิดความแน่นอน

"ปี 53 หนักหนาสาหัส เพราะการเมืองไม่นิ่งเศรษฐกิจไม่นิ่ง ภาครัฐซึ่งเป็นตัวกำหนดการลงทุน ธุรกิจ TNDT เกี่ยวข้องกับภาคอุตสาหกรรม และภาคอุตสาหกดรรมก็กำหนดเศรษฐกิจประเทศ เมื่อการลงทุนไม่มั่นใจก็มีการเลื่อนการก่อสร้าง ทำให้งานของเราก็ถูกเลื่อนไปเรื่อยๆ"นางสาวชมเดือน กล่าว

นางสาวชมเดือน กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทต้องหางานในต่างประเทศเพิ่มเติม โดยมีแผนจะจัดตั้งบริษัทุนร่วมทุนกับลาว ตั้งสำนักงานที่กรุงเวียงจันทร์ เพื่อจะรับงานตรวจสอบโรงไฟฟ้าในลาว โดย TNDT จะถือหุ้น 70% ที่เหลือถือหุ้นโดยพันธมิตรลาว คาดว่าจะจัดตั้งได้ภายในไตรมาส 1/54 หรือไม่เกินไตรมาส 2/54 จากนั้นจะมีการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในเวียดนามด้วยกันในไตรมาส 2/54

ฉะนั้น ในปีนี้บริษัทจะมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มเป็น 5% ของรายได้รวม จากปีก่อนมีสัดส่วน 2% โดยงานต่างประเทศมีมาร์จิ้นดีกว่างานในประเทศ เพราะมีค่าแรงงานต่ำกว่า

ส่วนการลงทุนในประเทศซูดานและมาดากัสการ์ หลังจากบริษัทได้ศึกษาและดูลู่ทางแล้วตัดสินใจยกเลิกการลงทุนทั้งสองประเทศ เพราะสถานการณ์ไม่ปลอดภัย ยังมีการสู้รบกันอยู่ ดังนั้น ในระยะนี้บริษัทจะเน้นรับงานในแถบประเทศอาเซียน

นางสาวชมเดือน กล่าวว่า บริษัทยังได้ยื่นการประมูลงานตรวจสอบโรงไฟฟ้าในไทยหลายงาน รวมมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท คาดว่าจะรู้ผลในไตรมาส 1/54 ขณะที่งานตรวจสอบโรงงานในกลุ่ม ปตท. ยังไม่มีงานใหม่เข้ามา โดยมองว่า กลุ่มปตท.จะคัดเลือกโครงการที่จำเป็นในการเข้าตรวจสอบ และหากไม่มั่นใจก็คงจะยังไม่ลงทุน เห็นได้จากปัญหาโครงการในมาบตาพุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ