Asia Marketsสรุปภาวะตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียประจำวันที่ 21 มีนาคม 2554

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 21, 2011 16:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดตลาดวันนี้ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย หลังจากที่หุ้นกลุ่มการเงินดีดตัวขึ้นในช่วงท้ายของการซื้อขาย แต่นักลงทุนก็ยังระมัดระวังการซื้อขายและเริ่มซึมซับข่าวการสู้รบในลิเบียและวิกฤตนิวเคลียร์ในญี่ปุ่น

ดัชนี S&P/ASX 200 ปิดบวก 16.40 จุด หรือ 0.4% แตะ 4,642.80 จุด

-- ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดตลาดพุ่งขึ้นในวันนี้ (21 มี.ค.) สอดคล้องตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในเอเชียที่ปรับตัวขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวสูงขึ้นหลังฝรั่งเศส อังกฤษ และสหรัฐ เปิดฉากโจมตีลิเบีย

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนี VN ปิดบวก 7.17 จุด หรือ 1.56% แตะ 468.25 จุด

-- ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันปิดพุ่งขึ้นในวันนี้ นำโดยหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว นอกจากนี้ การที่ชาติตะวันตกบุกโจมตีทางอากาศในลิเบีย ได้ผลักดันให้หุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้นด้วย

ดัชนีเวทเต็ดปรับตัวขึ้น 72.96 จุด หรือ 0.87% ปิดที่ระดับ 8,467.71 จุด

-- ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันนี้ เนื่องจากบรรยากาศการลงทุนได้รับปัจจัยหนุนจากความวิตกกังวลที่เริ่มคลี่คลายลงเกี่ยวกับวิกฤตนิวเคลียร์ในญี่ปุ่น

สำนักข่าวยอนฮัพรายงานว่า ดัชนีคอมโพสิตเพิ่มขึ้น 22.29 จุด หรือ 1.13% ปิดที่ 2,003.42 จุด มีปริมาณการซื้อขายที่ 288.5 ล้านหุ้น มูลค่าการซื้อขาย 5.61 ล้านล้านวอน (4.99 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)

-- ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดวันนี้ขยับขึ้นเล็กน้อย หลังทางการจีนใช้มาตรการคุมเข้มเพิ่มเติม

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดบวก 2.25 จุด หรือ 0.08% แตะ 2,909.14 จุด ส่วนดัชนีหุ้นเสิ่นเจิ้นลบ 78.26 จุด หรือ 0.62% แตะ 12,643.73 จุด

-- ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเริ่มคลายวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์นิวเคลียร์ในญี่ปุ่น ขณะเดียวกันนักลงทุนไม่สนใจกับการที่ธนาคารกลางจีนใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินเพิ่มเติม ด้วยการประกาศขึ้นเพดานกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์อีก 0.50%

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีฮั่งเส็งทะยาน 384.99 จุด หรือ 1.73% ปิดที่ 22,685.22 จุด หลังจากที่เคลื่อนไหวระหว่าง 22,395.30-22,711.84 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 7.420 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 9.52 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ