ทริสลดเครดิตองค์กร RCL เป็น BBB /หุ้นกู้เป็น BBB- แนวโน้มลบ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday June 30, 2011 15:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศปรับลดอันดับเครดิตองค์กรของ บมจ. อาร์ ซี แอล (RCL) เป็นระดับ “BBB" จาก “BBB+" พร้อมทั้งปรับลดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันของบริษัทเป็นระดับ “BBB-" จาก “BBB" ด้วยแนวโน้ม “Negative" หรือ “ลบ"

อันดับเครดิตสะท้อนถึงผลประกอบการที่อ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้จากปัจจัยที่ไม่เอื้ออำนวยหลายประการ อาทิ ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจโลก การแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย และอุปทานส่วนเกินของเรือที่มีจำนวนมาก

นอกจากนี้ ยังมีรูปธรรมที่แสดงให้เห็นว่าบริษัทได้เสียความสามารถในการแข่งขันทั้งในธุรกิจกองเรือฟีดเดอร์และธุรกิจเรือบริการขนส่งตู้สินค้าประจำเส้นทาง โดยในปี 2554 บริษัทมีปริมาณการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้นเพียง 7% ซึ่งต่ำกว่าปริมาณการขนส่งสินค้าของทั่วโลกที่เติบโตมากกว่า 10%

อัตราค่าระวางเรือโดยเฉลี่ยของบริษัทโดยเฉพาะธุรกิจกองเรือฟีดเดอร์นั้นตกต่ำลงตั้งแต่ปี 52 และยังคงไม่ฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตยังคงสะท้อนถึงคณะผู้บริหารของบริษัทที่มีความสามารถและประสบการณ์ รวมทั้งสถานะผู้นำในตลาดผู้ประกอบการขนส่งทางเรือระดับภูมิภาคอันเนื่องมาจากความได้เปรียบในเรื่องขนาดของกองเรือ ความถี่ในการให้บริการ และอายุเฉลี่ยของกองเรือที่ยังต่ำ

แนวโน้มอันดับเครดิต “Negative" หรือ “ลบ" สะท้อนถึงการอ่อนตัวลงของผลประกอบการและสถานะในการแข่งขันของบริษัท โดยเฉพาะในธุรกิจกองเรือฟีดเดอร์ นอกจากนี้ ยังคาดว่าเงื่อนไขทางการตลาดที่ไม่เอื้ออำนวยหลาย ๆ ประการจะยังกดดันความสามารถของบริษัทในการปรับปรุงผลประกอบการและสถานะทางการเงินในระยะอันใกล้

ทั้งนี้ อันดับเครดิตอาจถูกปรับลดลงหากอัตรากำไรของบริษัทยังไม่ฟื้นตัวและสภาพคล่องไม่ดีขึ้นในช่วง 6-12 เดือนข้างหน้า ในทางกลับกัน แนวโน้มอันดับเครดิตอาจได้รับการปรับเป็น “Stable" หรือ “คงที่" หากอัตรากำไรปรับตัวดีขึ้นและบริษัทสามารถสร้างกระแสเงินสดที่เข้มแข็งเพียงพอที่จะใช้ชำระคืนหนี้

ทริสเรทติ้งรายงานว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2554 ปริมาณการขนส่งและอัตราค่าระวางเฉลี่ยของ RCL เพิ่มขึ้นเพียง 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาเนื่องจากอุปทานส่วนเกินของเรือที่มีจำนวนมากซึ่งส่งผลให้มีการแข่งขันที่รุนแรง จากการรายงานของ Alphaliner ปริมาณการบรรทุกสินค้าในช่วงปี 2554-2556 จะเพิ่มขึ้นประมาณ 4.4 ล้านตู้ (Twenty-foot Equivalent Units - TEU) หรือคิดเป็น 31% ของปริมาณบรรทุกในปัจจุบัน

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันเฉลี่ยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2554 ที่เพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาโดยอยู่ที่ระดับ 582 ดอลลาร์สหรัฐต่อเมตริกตันนั้นส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายน้ำมันต่อรายได้ของบริษัทในช่วงไตรมาสแรกของปี 2554 เพิ่มขึ้นเป็น 41% จากระดับ 30% ในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทไม่สามารถปรับค่าน้ำมันส่วนที่เพิ่มได้มากกว่าปีดังกล่าว ดังนั้นบริษัทจึงไม่ได้รับเงินส่วนที่ชดเชยต้นทุนน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นได้

รายได้ที่เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยประกอบกับราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นส่งผลให้รายได้และกระแสเงินสดของ RCL ต่ำกว่าประมาณการ อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ (ปรับปรุงรายการเช่าดำเนินงาน) อ่อนตัวลงอย่างมีนัยสำคัญจาก 8.4% ในปี 2553 เป็น -8.6% ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2554

นอกจากนี้ อัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่าย (ปรับปรุงรายการเช่าดำเนินงาน) ก็ลดลงจาก 2.6 เท่าในปี 2553 เป็น -1.9 เท่าในช่วงไตรมาสแรกของปี 2554 อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวม (ปรับปรุงรายการเช่าดำเนินงาน) ปรับลดอย่างมากจาก 8.1% ในปี 2553 เป็น -4.0% ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2554 (ยังไม่ได้ปรับอัตราส่วนให้เป็นตัวเลขเต็มปี)

ส่วนอัตราส่วนหนี้สินต่อโครงสร้างเงินทุน (ปรับปรุงรายการเช่าดำเนินงาน) ยังคงอยู่ที่ระดับ 47% ตลอดปี 2553 ถึงไตรมาสแรกของปี 2554 สภาพคล่องของบริษัทตึงตัวขึ้น โดย ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2554 บริษัทมีเงินสดจำนวน 1,639 ล้านบาท ลดลงจาก 2,290 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2554 อย่างไรก็ตาม บริษัทจะไม่มีการลงทุนที่สำคัญ ๆ ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า

วงเงินสินเชื่อส่วนใหญ่ของ RCL มีการกำหนดเงื่อนไขทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับหนี้สินและอัตราส่วนที่เกี่ยวข้องกับกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย ทั้งนี้ บริษัทไม่สามารถดำรงอัตราส่วนที่เกี่ยวข้องกับกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาให้อยู่ในระดับที่กำหนดไว้ได้

อย่างไรก็ตาม บริษัทก็ได้รับการผ่อนปรนในการดำรงอัตราส่วนดังกล่าวจากเจ้าหนี้ นอกจากนี้ บริษัทยังประสบความสำเร็จในการยกเลิกเงื่อนไขในการดำรงอัตราส่วนที่เกี่ยวข้องกับกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายจากข้อกำหนดเงื่อนไขทางการเงินด้วย แต่บริษัทจะต้องดำรงเงินสดขั้นต่ำจำนวน 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐไว้ตลอดอายุของสัญญาเงินกู้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ