โบรกฯแนะ"ซื้อ"AH ยอดผลิตรถฟื้นชัด H2/54 อีโคคาร์หนุน,ราคามี upside สูง

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday July 18, 2011 15:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกฯเชียร์"ซื้อ"หุ้น บมจ.อาปิโก ไฮเทค(AH)รับผลดีจากอุตสาหกรรมยานยนต์ฟื้นตัวในไตรมาส 3-4/54 หลังจากได้รับผลกระทบจากเหตุภัยพิบัติในประเทศญี่ปุ่น โดยคาดยอดผลิตรถยนต์ในประเทศไตรมาส 3/54 จะเพิ่มมาที่ 4.6 แสนคัน ช่วยหนุนผลประกอบการ AH ฟื้นตัวไปด้วย ขณะที่รถอีโคคาร์จ่อเปิดตัวอีกหลายยี่ห้อ และบางค่ายรถยนต์ก็มีการเปลี่ยนโมเดล

ขณะที่ราคาหุ้น AH มองว่ายังต่ำกว่า BV ยังมี upside ค่อนข้างมาก

          โบรกฯ                 คำแนะนำ           ราคาเป้าหมาย
          บล.เกียรตินาคิน           ซื้อ                    16.96
          บล.กรุงศรีอยุธยา          ซื้อ                    15.80
          บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย)    ถือ                    16.60(ปี 55)
          บล.เคจีไอ (ประเทศๆไทย)  ซื้อ                    19.00(ปี 55)
          บล.เอเซีย พลัส           ซื้อ                    17.91

นายดิษฐนพ วัธนเวคิน นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เกียรตินาคิน กล่าวว่า ราคาหุ้น AH ยังไม่ปรับขึ้นมาทันกับยอดผลิตยานยนต์ที่มีแนวโน้มฟื้นตัวได้เร็ว ถึงแม้ผลประกอบการไตรมาส 2/54 มีโอกาสชะลอตัวลงเป็นผลจากสึนามิ แต่ไตรมาส 3/54 จะฟื้นตัวตามยอดผลิตยานยนต์ ซึ่งเดือน เม.ย.ยอดผลิตรถยนต์ของไทยอยู่ที่ 8.9 หมื่นคัน,เดือนพ.ค.เพิ่มเป็น 9.8 หมื่นคัน

ทั้งนี้ คาดว่าเดือน มิ.ย.การผลิตรถยนต์ของไทยจะฟื้นตัวสูงถึง 1.27 แสนคัน, เดือน ก.ค.เพิ่มเป็น 1.4 แสนคัน, เดือน ส.ค.1.5 แสนคัน และ เดือน ก.ย.1.6 แสนคัน ทำให้ยอดผลิตยานยนต์ในไตรมาส 3/54 อยู่ที่ระดับ 4.6 แสนคัน ฟื้นตัวจากไตรมาส 2/54 ที่ 3.2 แสนคัน เพราะฉะนั้นผลประกอบการจะเป็นไปในทิศทางเดียวกันในไตรมาส 3/54 จะฟื้นตัวค่อนข้างดีจากไตรมาส 2/54 ให้ราคาเป้าหมาย 16.96 บาท เทียบราคาปัจจุบันที่ 14.40 บาท มี upside gain 18%

นายถกล บรรจงรักษ์ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรีอยุธยา มองว่า ผลประกอบการ AH ในช่วงไตรมาส 2/54 ยังแย่เพราะกระทบจากสึนามิญี่ปุ่น แต่พอไตรมาส 3/54 ค่ายรถยนต์เริ่มกลับมาผลิตในระดับปกติน่าจะหนุนให้ผลประกอบการเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นตามไปด้วย และมองยาวไปปีหน้ามีประเด็นบวกเรื่องอีโคคาร์ที่กำลังจะทยอยออกมาอีกหลายค่าย

นักวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุว่า หลังงบฯไตรมาส 2/54 ออกมาอาจมีการปรับประมาณขึ้น เพราะครึ่งปีหลังเชื่อว่าอุตสาหกรรมยานยนต์จะดีกว่าครึ่งแรกค่อนข้างมาก และ AH มีปัจจัยเด่น คือ ปลายปีอีซูซุจะออกรถใหม่ และ GM ออกกระบะรุ่นใหม่ โดย valuation ปี 55 ของ AH ที่ 16.60 บาท PE 10 เท่า แต่ถ้าภาคอุตสาหกรรมยานยนต์มีความร้อนแรงมากอาจจะเพิ่มขึ้นเป็น 11 เท่า ราคาหุ้นที่เหมาะสมน่าจะอยู่ที่ 18 บาท

ส่วนบทวิเคราะห์ บล.เคจีไอ เห็นว่าราคาหุ้นในปัจจุบันสะท้อนผลกระทบในระยะสั้นจากปัญหาการชะลอตัวของการผลิตรถยนต์ในไตรมาส 2/54 และคาดว่าการผลิตยานยนต์จะฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง ดังนั้น คาดว่าไตรมาส 2/54 ผลประกอบการต่ำสุดของปีนี้ แต่ประเมินว่า AH จะได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนชิ้นส่วนยานยนต์ในระดับที่ต่ำกว่าภาพรวมอุตสาหกรรม เนื่องจากลูกค้าหลัก เช่น อิซูซุจะกลับมาเริ่มดำเนินงานตามปกติตั้งแต่เดือน ก.ค.เป็นต้นไป

นอกจากนี้ ผู้บริหารเผยว่าลูกค้าหลักรายอื่น ๆ เช่น AAT (ผลิต Ford และ Mazda) และ Nissan ลดกำลังการผลิตในไตรมาส 2/54 ลงเพียงเล็กน้อย และจะกลับมาดำเนินงานได้ในเดือน มิ.ย.และ ก.ค.จากความต้องการรถกระบะและรถขนาดเล็กที่อยู่ในระดับสูง คาดว่ารายรับของ AH จะฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 3/54 เป็นต้นไป พิจารณาจากราคาที่อยู่ในระดับต่ำโดยมีค่า 11PE และ 12PE ที่ 8.7 เท่าและ 7.3 เท่าตามลำดับ เลือก AH เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มยานยนต์

นักวิเคราะห์ บล.เอเชีย พลัส คาดกำไร AH ปีนี้ที่ 370 ล้านบาท อาจไม่เห็นการเติบโตมาก แต่ปีหน้าน่าจะมีกำไรในระดับ 426 ล้านบาท เติบโต 15% ขณะที่ราคาหุ้นขณะนี้ยังค่อนข้างต่ำกว่า BV สิ้นไตรมาส 1/54 ที่ 16.70 บาท/หุ้น ตอนนี้ราคาหุ้นเทรด 14.40 บาท ขณะที่ BV ที่คาดการณ์ในปีนี้ที่ 17.62 บาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ