นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการขายและการตลาด กล่าวว่า บริษัทจะเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ในประเทศ ประเภทเสนอขายเป็นรอบระยะเวลา (Rollover) ทั้งหมด 4 กองทุนในเดือน ก.ค.นี้ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุน
ในวันที่ 20 ก.ค.บริษัทฯ จะ rollover กองทุนเปิดแอสเซทพลัสแอ็คทีฟตราสารหนี้ 9 (ASP-ACFIXED9) ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ในประเทศที่เปิดเสนอขายเป็นรอบระยะเวลา โดยรอบการลงทุนนี้กองทุนจะเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทยในสัดส่วนประมาณ 65% และส่วนที่เหลือจะลงทุนในตั๋วแลกเงินของธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮาส์(LHB) และธนาคารทิสโก้(TISCO) อายุประมาณ 3 เดือน โดยคาดว่าสามารถให้ผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายได้อยู่ที่ 3.00% ต่อปี
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้มีการปรับนโยบายเน้นลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศมากขึ้น โดยได้มีการแก้ไขโครงการกองทุนเปิดแอ็คทีฟเอฟไอเอฟ 6 (ACFIF6) ซึ่งจะครบรอบ Rollover ใหม่ในวันที่ 21 ก.ค.นี้ จากกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ เป็นกองทุนตราสารหนี้ในประเทศ เพื่อให้กองทุนสามารถดำรงสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศได้อย่างเหมาะสมกับภาวะการลงทุน และเปลี่ยนชื่อเป็น กองทุนเปิดแอสเซทพลัสตราสารหนี้ทวีทรัพย์ 5 (ASP-TFIXED5) ซึ่งจะมีผลตั้งแต่รอบลงทุนถัดไปตั้งแต่วันที่ 22 ก.ค. นี้
กองทุน ACFIF6 จะลงทุนในลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ในสัดส่วนประมาณ 80% และตั๋วแลกเงินธนาคารเกียรตินาคิน (KK) ในสัดส่วนประมาณ 20% โดยกองทุนมีรอบระยะเวลาประมาณ 6 เดือน โดยคาดว่าสามารถให้ผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายได้อยู่ที่ 3.25% ต่อปี
รวมทั้งในวันที่ 25 ก.ค. บริษัทฯ จะ Rollover กองทุนเปิดแอสเซทพลัสทวีเงินออม 1 (ASP-MMF1) ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ในประเทศ ที่เปิดเสนอขายทุกรอบ 3 เดือน โดยรอบการลงทุนนี้ จะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล และตราสารหนี้เอกชนคุณภาพ เช่น ตั๋วแลกเงิน ของ บมจ.อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ลีส (AYCAL) บมจ.เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ (AP) บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) และบจ. เอเซียเสริมกิจ ลีสซิ่ง (ASK) โดยคาดว่าสามารถให้ผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายได้อยู่ที่ 3.10% ต่อปี
ทั้งนี้ สำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการมีสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ที่ออกโดยบริษัทที่มีอัตราการเจริญเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีขึ้นกว่าเงินฝาก
และสำหรับผู้ลงทุนที่ชื่นชอบกองทุนความเสี่ยงต่ำ และคุ้มครองเงินต้น ในระยะเวลาสั้นๆ ในวันที่ 26 ก.ค. บริษัทฯ จะ rollover กองทุนเปิดพันธบัตรคุ้มครองเงินต้น 3M1 (GBF-3M1) ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล 100% อายุ 3 เดือน โดยคาดว่าสามารถให้ผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายได้อยู่ที่ 2.95% ต่อปี
"กองทุน Rollover ทั้ง 4 กองทุนมีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ สามารถสร้างโอกาสผลตอบแทนในระดับที่ดี และมีรอบการลงทุนประมาณ 3-6 เดือน ซึ่งเป็นระยะเวลาการลงทุนที่เหมาะสม ตามช่วงการปรับตัวของดอกเบี้ยขาขึ้น" นางสาวจารุลักษณ์ กล่าว