Xinhua's Interview: อดีตที่ปรึกษาปธน.สหรัฐชี้ดาวโจนส์ดิ่งเหตุนลท.มีปฏิกริยามากไปต่อข่าวลดเครดิตสหรัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 9, 2011 11:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

แบร์รี บอสเวิร์ธ อดีตที่ปรึกษาประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งปัจจุบันเป็นนักวิเคราะห์ที่สถาบันบรู๊คลิน สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า การที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (8 ส.ค.) เกิดจากการที่นักลงทุนมีปฏิกริยามากเกินไปต่อข่าวสหรัฐถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือถือเป็นครั้งแรก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลงมากกว่า 600 จุด หรือ 5.5% เมื่อคืนนี้ หลังจากมีรายงานว่า สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ซึ่งเป็น 1 ใน 3 บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐลงสู่ระดับ AA+ จากระดับสูงสุดที่ AAA ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เศรษฐกิจสหรัฐตกอยู่ในภาวะที่ไม่แน่นอนมากขึ้น

"ความเห็นส่วนตัวของผมก็คือ ตลาดหุ้นมีปฏิกริยาต่อข่าวนี้มากจนเกินไป แต่ผมก็เห็นด้วยว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในสหรัฐกำลังย่ำแย่ลงอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ ผมยังเห็นด้วยว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐได้จบสิ้นลงแล้ว และขณะนี้เราต่างก็กำลังพูดถึงเรื่องอัตราดอกเบี้ยและอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่อยู่ในระดับต่ำมาก" บอสเวิร์ธให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัว

การลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐมีขึ้นหลังจากวุฒิสมาชิกและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐถกเถียงกันเกี่ยวกับการปรับเพิ่มเพดานหนี้เป็นเวลานานหลายสัปดาห์ และแม้ว่าสภาคองเกรสมีมติผ่านร่างกฎหมายการปรับเพิ่มเพดานหนี้ได้ก่อนกำหนดเส้นตายวันที่ 2 ส.ค. แต่เอสแอนด์พีมองว่า ยังไม่เพียงพอที่จะช่วยสร้างเสถียรภาพด้านการคลังของรัฐบาลกลางสหรัฐได้

บอสเวิร์ธกล่าวว่า ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มที่จะขยายตัวเพียง 1% นั้น อัตราว่างงานภายในประเทศก็มีแนวโน้มสูงขึ้นด้วย ซึ่งเขาเชื่อว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่สหรัฐนำมาใช้นั้นได้ทำหน้าที่ไปอย่างเต็มประสิทธิภาพแล้ว ในช่วงเวลาที่อัตราดอกเบี้ยในสหรัฐอยู่ในระดับ 0%

"ผมคิดว่าทางเลือกเหล่านั้นสิ้นสุดลงแล้ว นโยบายการเงินได้ถูกใช้งานไปอย่างเต็มประสิทธิภาพ" เขากล่าว พร้อมกับชี้ให้เห็นว่า มีแรงต้านภายในไม่ให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใช้มาตรการเหล่านั้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ