นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการขายและการตลาด บลจ.แอสเซท พลัส กล่าวว่า บริษัทจะเสนอขายครั้งแรก (IPO) กองทุนเปิดแอสเซทพลัสทวีทรัพย์ 9 (ASP-TFIXED9) ระหว่างวันที่ 12-14 กันยายน 54
กองทุนตราสารหนี้ดังกล่าวเป็นกองทุนที่เปิดเสนอขายเป็นรอบระยะเวลา โดยรอบการลงทุนนี้กองทุนจะลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศและเงินฝากธนาคารต่างประเทศ เช่น เงินฝาก Bank of China สาขามาเก๊า เป็นสกุลเงินหยวน ซึ่งทางบริษัทฯ ได้ทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงระหว่างค่าเงินหยวนและค่าเงินบาทเต็มจำนวน หุ้นกู้ บมจ.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ตั๋วแลกเงิน ธนาคารธนชาต (TBANK) บมจ. อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส (AYCAL) บมจ.แลนด์แอนด์เฮาส์ (LH) และธนาคารแลนด์แอนด์เฮาส์ (LHB) โดยมีรอบการลงทุนประมาณ 6 เดือน โดยคาดว่าสามารถให้ผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายได้อยู่ที่ 3.65% ต่อปี
ทั้งนี้ มองว่าจากนโยบายของรัฐบาลที่ยังคงไม่มีความชัดเจนด้านงบประมาณรายจ่าย เช่น นโยบายซื้อคอมพิวเตอร์ให้เด็กนักเรียน การจำนำข้าว และการประกันค่าแรงขั้นต่ำรายวัน อีกทั้งการปรับลดลงของราคาน้ำมันโลกและการที่รัฐบาลปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน และแก็สโซฮอลล์ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน น่าจะช่วยให้อัตราเงินเฟ้อในช่วงต่อไปปรับตัวลดลง จึงคาดว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อควบคุมเงินเฟ้อน่าจะผ่อนคลายลง โดยบริษัทฯ คาดว่าในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) อีก 2 ครั้งในปีนี้นั้นน่าจะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียว มาอยู่ที่ 3.75%
และในมุมมองการลงทุนในภาวะที่ปัจจัยกดดันภายนอกประเทศยังคงไม่ชัดเจน ทั้งปัญหาในสหรัฐฯ ที่มีอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ต่ำ ปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป และปัญหาความไม่สงบในตะวันออกกลาง สำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ การลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศระยะสั้นๆ น่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้เสียโอกาสผลตอบแทนในช่วงอัตราดอกเบี้ยในประเทศอยู่ในช่วงขาขึ้น