โบรกเกอร์แนะลงทุนหรือซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวหุ้น บมจ.บางจาก ปิโตรเลียม(BCP)เพราะมองว่ากำไรทั้งปี 54 ยังเติบโตได้ดี แม้กำไรในไตรมาส 3/54 อาจลดลงจากไตรมาส 2/54 ค่อนข้างมากตามค่าการกลั่น และมีกำไรจากสต็อกน้ำมันลดลงหรืออาจขาดทุน รวมทั้งมีการปิดซ่อมโรงกลั่น แต่ช่วงไตรมาส 4/54 คาดว่ากำไรจะฟื้นตัวกลับมาดี โดยมีรายได้จากโซลาร์ฟาร์มเข้ามาหนุน อีกทั้งยังเป็นหุ้นให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลได้ปีละประมาณ 5% ด้วย
ขณะที่ราคาหุ้น ต่ำที่สุดในกลุ่มพลังงาน แต่ราคาไม่กี่วันที่ผ่านมาปรับขึ้นตามตลาดรวม จึงแนะให้รออ่อนตัวอีกค่อยเข้าไปเก็บไว้
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท) บล.กรุงศรีอยุธยา ซื้อเมื่ออ่อนตัว 21.60 บล.เกียรตินาคิน ซื้อ 22.00 บล.ทรีนิตี้ ซื้อ 22.50 บล.เอเซียพลัส ซื้อเมื่ออ่อนตัว 24.00 บล.ฟิลลิป ซื้อ 26.50นายชาญวุทธ เตชอมรธนกิจ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรีอยุธยา แนะ"ซื้อ"หุ้น BCP เมื่อราคาอ่อนตัว เพราะคาดแนวโน้มกำไรสุทธิในไตรมาส 3/54 จะอ่อนตัวกว่าในไตรมาส 2/54 และแนวโน้มกำไรสุทธิในปีหน้าจะลดลงประมาณ 22% จากปีก่อน(YoY)เนื่องจากค่าการกลั่นอ่อนตัวลงหลังจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว
อย่างไรก็ดี BCP มีจุดเด่นที่ราคาถูกทั้งในแง่ P/E และ PBV ที่ต่ำสุดในกลุ่มพลังงาน และยังมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลประมาณ 5%ต่อปี
ทั้งนี้ ไตรมาส 3/54 คาดว่าค่าการกลั่นจะลดลง และจากการปิดซ่อมบำรุงทำให้กำไรในไตรมาสนี้ลดลงจากไตรมาสก่อน โดยคาดว่าค่าการกลั่น (รวมสต็อกน้ำมัน) อยู่ที่ 6 เหรียญ/บาร์เรล จากไตรมาส 2/54 อยู่ที่ 12 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งได้รับกำไรจากสต็อกประมาณกว่า 5 เหรียญ/บาร์เรล
"ผมมองว่าโอกาสราคาหุ้นจะลงได้อีก ราคาตอนนี้ที่ปรับตัวขึ้นมาตามรอบตลาดมากกว่า แต่เรื่องยุโรปสหรัฐเป็นตัวถ่วงราคา ถ้าเล่นสั้นๆก็น่าจะเล่นได้" นายชาญวุทธ กล่าวด้าน น.ส.นลินรัตน์ กิตติกำพลรัตน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.เอเชีย พลัส แนะนำลงทุน BCP เมื่อราคาอ่อนตัว และไม่ได้เป็น top picks เนื่องจากมองว่ากำไรในไตรมาส 3/54 จะออกมาไม่ค่อยดี โดยคาดว่าจะมีผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน ตอนนี้กำลังประเมินตัวเลขเบื้องต้น
อย่างไรก็ดาม ทั้งปี 54 คาดว่ากำไรสุทธิจะออกมาดี เพราะครึ่งแรกทำได้ดีแล้ว กำไรสุทธิปีนี้จะอยู่ที่ 6.3 พันล้านบาท จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2.8 พันล้านบาท
บล.เกียรตินาคิน คาดกำไรสุทธิ Q3/54 อยู่ที่ 642 ล้านบาท ลดลง 79%qoq ส่วนหนึ่งมาจากกำลังการกลั่นที่ลดลง หลังบริษัทหยุดซ่อมนอกแผน และค่าการกลั่นที่ลดลงจากการรับรู้ Stock Gain ลดลงตามทิศทางราคาน้ำมัน คาดกำไรสุทธิ Q3/54 จะเป็นจุดต่ำสุด
ทั้งนี้ เชื่อว่าค่าการกลั่นที่ยังแข็งแกร่งต่อเนื่อง รวมทั้งการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ จะหนุนกำไรสุทธิ Q4/54 ฟื้นตัว
"เรามองว่าราคาหุ้น BCP ยังต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน โดยปัจจุบัน BCP มี ROE ในระดับเดียวกับโรงกลั่นในภูมิภาค แต่มี PBV ต่ำเพียง 0.76 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในภูมิภาคที่ระดับ 1.49 เท่า ขณะที่ราคาปิดล่าสุดยังมี Upside Gain 20% ทำให้เรายังคงแนะนำ ซื้อ ด้วยราคาเป้าหมายที่ 22 บาท" บทวิเคราะห์ระบุบล.ทรีนิตี้ คาดการณ์ กำไรสุทธิไตรมาส 3/54 อ่อนแอลง 75%QoQ แต่เป็นไปตามที่คาดหมายเดิมอยู่แล้ว โดยปริมาณการผลิตในไตรมาส 3/54 เท่ากับ 88,000 บาร์เรลต่อวัน เทียบกับไตรมาส 1/54 ผลิตที่ 62,700 บาร์เรลต่อวันไตรมาส 2/54 อยู่ที่ 98,200 บาร์เรลต่อวัน และงวด 1H54 เท่ากับ 80,500 บาร์เรลต่อวัน
สาเหตุที่น้อยกว่าไตรมาส 2/54 เนื่องจากมีการหยุดซ่อมหน่วย Gasoline Oxtane 10 กว่าวัน คาดว่าไตรมาส4/54 จะเดินหน้าผลิตเต็มที่เกิน 100,000 บาร์เรลต่อวัน จึงจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้เป็นค่าเฉลี่ยการผลิตทั้งปีที่ 91,000 บาร์เรลต่อวัน ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าในปี 55 จะผลิตใกล้เคียงกับปี 54 เนื่องจากมีแผนหยุดซ่อมบำรุง 30 วันช่วงหลังสงกรานต์เช่นกัน
นอกจากนี้ ปรับราคาเหมาะสมจากเดิม 29 บาท เป็น 22.50 บาท เป็นเพราะ ปรับกำไรสุทธิปี 54 เพิ่ม 15.6% เนื่องจาก 1H54 ทำกำไรได้สูงเกินคาดไปมาก และลดปี 55 ลง 15% สะท้อนราคาน้ำมันที่เราคาดการณ์ว่าอ่อนแอลง จาก 100 เหรียญฯ เป็นสมมติฐานใหม่ 85 เหรียญฯต่อบาร์เรล เราประเมินราคาเหมาะสมใหม่ด้วยวิธี DCF เท่ากับ 22.57 บาท