(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งขึ้นตามภูมิภาค รับความหวังสหรัฐฯ-จีนเจรจาการค้า แรงซื้อ Thai ESGX หนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 7, 2025 09:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งตัวขึ้นตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเปิดตลาดเช้าวันนี้ จากสัญญาณบวกของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ที่มีรายงานว่าเตรียมเจรจากันที่สวิตเซอร์แลนด์ในสัปดาห์นี้ ทำให้เป็นปัจจัยหนุนหลักต่อตลาดหุ้น

ขณะเดียวกันยังมีแรงทยอยซื้อหุ้นขนาดใหญ่จากกองทุน Thai ESGX เข้ามาเสริมและช่วยผลักดันดัชนี และยังรอติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่าจะมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐอย่างไร

โดยให้แนวต้าน 1,200 จุด แนวรับ 1,180 จุด


*ประเด็นพิจารณาการลงทุน


- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (6 พ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 40,829.00 จุด ลดลง 389.83 จุด หรือ -0.95%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,606.91 จุด ลดลง 43.47 จุด หรือ -0.77% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,689.66 จุด ลดลง 154.58 จุด หรือ -0.87%

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 36,903.66 จุด เพิ่มขึ้น 72.97 จุด หรือ +0.20% ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,354.97 จุด เพิ่มขึ้น 38.86 จุด หรือ +1.17% และดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 23,169.83 จุด เพิ่มขึ้น 507.12 จุด หรือ +2.24%

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (6 พ.ค.) 1,187.86 จุด ลดลง 11.12 จุด (-0.93%) มูลค่าซื้อขาย 43,619.94 ล้านบาท

- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ (6 พ.ค.) 823.95 ล้านบาท

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. (6 พ.ค.) เพิ่มขึ้น 1.96 ดอลลาร์ หรือ 3.43% ปิดที่ 59.09 ดอลลาร์/บาร์เรล

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (6 พ.ค.) อยู่ที่ 6.58 เหรียญ/บาร์เรล

- เงินบาทเปิด 33.70 จับสัญญาณทิศทางดอกเบี้ยเฟดคืนนี้-คืบหน้าเทรดวอร์

- นายกฯ สั่ง ครม.รับมือเศรษฐกิจโลกผันผวน ชี้หลังไทยถูกธนาคารโลกและสถาบันต่างๆ ปรับลดเป้าจีดีพีลง ต้องทบทวนการใช้งบประมาณ ให้ใช้โอกาสนี้ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ขอประชาชน ภาคเอกชนร่วมฝ่าวิกฤติไปด้วยกัน เผยแจกเงินหมื่นดิจิทัลยังไม่เลิก!! แต่ต้องรอฟังความเห็น ธปท. สภาพัฒน์ ยันตั้งใจขับเคลื่อนโครงการนี้ แต่เมื่อมีปัจจัยอื่นแทรกเข้ามาก็ต้องพิจารณา

- กพช.เคาะกำหนดเพดานค่าไฟฟ้า งวดเดือน ก.ย.-ธ.ค.68 ไม่เกิน 3.99 บาทต่อหน่วย หากไม่มีเหตุการณ์สำคัญมากระทบ หลัง กกพ. ปรับลดค่าไฟงวด พ.ค.-ส.ค.68 เหลือ 3.98 บาท/หน่วยไปแล้ว นายกฯ ย้ำต้องปรับราคาพลังงาน เพื่อแก้ปัญหาปากท้องประชาชน สั่งเร่งปรับปรุงหลักเกณฑ์ซื้อพลังงานสะอาด ให้เอกชนทำสัญญาซื้อขายได้โดยตรง

- สนค. กระทรวงพาณิชย์ เผยเงินเฟ้อทั่วไปเดือนเม.ย. 68 ติดลบครั้งแรกในรอบ 13 เดือน หดตัว-0.22% ตามราคาพลังงานและผักสดที่ลดลง ขณะเงินเฟ้อพื้นฐานยังบวก 0.98% คาดแนวโน้มพ.ค.อาจติดลบต่อเนื่อง แต่ไม่ถึงขั้นเงินฝืด ชี้การแจกเงินดิจิทัลไม่กระทบต้นทุนสินค้า

- "ท่องเที่ยวฯ" เขย่าแผนครึ่งปีหลังกระตุ้นทัวริสต์ทั้งตลาดไทย-ต่างชาติ จ่อชง "ครม." ของบกลางฯ วงเงิน 3,500 ล้าน ฉีดยาแรงผ่าน 3 โครงการ เฉพาะ "เที่ยวไทยคนละครึ่ง" ปรับใหม่ ลดจำนวนสิทธิเหลือไม่ถึง 1 ล้านสิทธิ แบ่งงบบางส่วนบูสต์ "ต่างชาติเที่ยวไทย" รักษาโมเมนตัมปี 2568 ดันให้ถึง 35.5 ล้านคนเท่าปีก่อน เน้นพยุง "ตลาดจีน" สกัดผลกระทบไม่ให้เกิดกรณีเลวร้ายที่สุด เหลือยอดเดินทางเข้าไทยแค่ 4-5 ล้านคนในปีนี้

- ค่าเงินดอลลาร์ไต้หวันแข็งตัวแรงขึ้นในรอบ 2 วัน จากความตึงเครียดศึกการค้า "สหรัฐ-จีน" สะท้อนการดิ้นเอาตัวรอดจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ "เงินบาท" ขยับแข็งค่าต่อเนื่อง แตะ 32.62 บาทต่อดอลลาร์ สูงสุดรอบ 7 เดือน นักวิเคราะห์ชี้แรงหนุนจากเงินหยวน สกุลเงินเอเชียเคลื่อนไหวทิศทางเดียวกัน นักลงทุนรอผลประชุมเฟด ขณะที่ ธนาคารกลางในภูมิภาคเตรียมรับมือความผันผวน

- แจกเงินหมื่นดิจิทัลวอลเล็ตวัยโจ๋ 16-20 ปี ยังไม่เข้า ครม. "อิ๊งค์" ยังไม่ยกเลิก แต่ขอรอฟังความเห็น ธปท. สภาพัฒน์ก่อน หลังเจอภาษีทรัมป์แทรก ส่วนเจรจาดีลลับสหรัฐฯ ขอเปิดจังหวะที่เหมาะสม ย้ำทันกรอบ 90 วัน สั่ง "พิชัย" เตรียมมาตรการรับมือ หลังธนาคารโลกประเมินเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก พร้อมเห็นชอบแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยว "สรวงศ์" รับดันกฎหมายบันเทิงครบวงจรคิวแรก หลังเปิดสภาผู้แทนราษฎร ยินดีให้สื่อจัดดีเบตปมกาสิโน

- บีโอไอ เปิดเผยถึงทิศทางการลงทุนของประเทศไทยมีสัญญาณที่ดีในระบบเศรษฐกิจ โดยเฉพาะช่วง 1-2 ปีข้างหน้านี้จะมีปริมาณเงินลงทุนจริงมากกว่า 1 ล้านล้านบาท เห็นได้จากการขอรับการส่งเสริมการลงทุนในช่วงไตรมาสแรก (ม.ค.-มี.ค.68) มีจำนวน 822 โครงการ เพิ่มขึ้น 20% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มูลค่าเงินลงทุนรวม 431,237 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 97% หรือเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว นำโดยอุตสาหกรรมดิจิทัล อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ยานยนต์และชิ้นส่วน และการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน

- "พาณิชย์" ลุยถกศุลกากรสหรัฐ เดินเครื่องกำหนดสินค้าเฝ้าระวังสวมสิทธิ์ไทยส่งออกเพิ่มเป็น 65 รายการ จากเดิม 49 รายการ จำนวน 224 พิกัดศุลกากร พร้อมเพิ่มความเข้มงวดในการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า ปักธงตรวจถึงโรงงาน แจงหากพบสวมสิทธิ์จะไม่ออกใบรับรองถิ่นกำเนิด ทำสินค้าเข้าปลายทางไม่ได้


*หุ้นเด่นวันนี้

- MINT (พาย) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 36.00 บาท คาดกำไรปกติในไตรมาส 1/68 เติบโตอยู่ที่ 58 ล้านบาท (-98%QoQ) พลิกจากขาดทุนในไตรมาส 1/67 ที่ 325 ล้านบาท แต่อ่อนตัวลง QoQ ด้วยปัจจัยนอกฤดูกาล แรงหนุนจาก 1)ธุรกิจโรงแรมรายได้ต่อห้องรวม (RevPAR) สกุลเงินบาทเติบโตอัตราหลักเดียวระดับต่ำ ขณะที่ RevPar สกุลเงินท้องถิ่นเพิ่มสูงขึ้น ยุโรป (+8%YoY) ไทย (+15%YoY) และมัลดีฟส์ (+20%YoY) และ2) ภาระค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ลดลงต่อนเอง ด้วยการชำระหนี้สินผ่านกระแสเงินสด

- BCH (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 19.40 บาท ไตรมาส 1/68 ฟื้นตัวได้เด่น QoQ หลังไตรมาส 4/67 มีปัจจัยกดดันกำไรจากการปรับการรับรู้รายได้ประกันสังคมโรค Adj.RW>2 เหลือ 8,000 บาท/adj.RW (12,000 บาท/adj.RW) และ การปรับปรุงรายการ Covid-19 ที่ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ คาดกำไรสุทธิปี 68 ที่ 1,651 ลบ.(+29%YoY) ปัจจัยหนุนจาก 1.ความเสี่ยงของการรับเงินประกันสังคมลดลง คาด SSO จะจ่ายโรค adj.RW>2 ที่ 1.2 หมื่นบาท/adj.RW ได้ และ 2.กลุ่มรายได้ผู้ป่วยต่างชาติที่มีแนวโน้มฟื้นตัว ขณะที่ BCH มีการเซ็นสัญญาร่วมกับมัลดีฟส์ เพื่อรับผู้ป่วยเข้ามารักษาที่ ร.พ.WMC

- ADVANC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" ราคาเป้าหมายเฉลี่ย IAA Consensus ที่ 304.59 บาท กำไรไตรมาส 1/68 ที่ 1.06 หมื่นลบ. +3%q-q , +23%y-y ดีกว่าคาดราว 8-9% และดีกว่า Guidance ของบริษัท หนุนจากฝั่งรายได้เติบโตแกร่งทั้ง Mobile Fixed Braadband และบริการอื่นๆ ขณะที่ต้นทุนโดยรวมต่ำกว่าคาด ทำให้ EBITDA Margin พุ่งเป็น 53.4% แนวโน้มไตรมาส 2/68 และครึ่งปีหลังปี 68 คาดยังแข็งแรงต่อเนื่องจากมภาพการแข่งขันเบาลง และการประมูลคลื่นความถี่รอบใหม่คาดไม่แพงเท่าอดีต กำไรไตรมาส 1/68 คิดเป็น 27% ของทั้งปี Consensus ที่ 3.9 หมื่นลบ.คาดตลาดปรับประมาณการขึ้นสู่ 4.1-4.2 หมื่นลบ.



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ