SET ปิดเช้านี้ที่ 1,207.89 จุด เพิ่มขึ้น 20.03 จุด (+1.69%) มูลค่าซื้อขายราว 24,721 ล้านบาท นักวิเคราะห์ เผยตลาดหุ้นไทยเช้าพุ่งทะลุ 1,200 จุด ขานรับการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน และสัญญาณเริ่มเจรจาจีน-สหรัฐ รวมทั้งคาด 2-3 สัปดาห์น่าจะเห็นพัฒนาการเจรจากับประเทศอื่นๆ ด้วย บ้านเรามีแรงซื้อเก็งกำไรกลุ่มปิโตรเคมี-น้ำมัน แนวโน้มช่วงบ่ายคาดตลาดไปต่อ ขยับแนวรับขึ้นมาที่ 1,200 จุด แนวต้าน 1,220 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ 1,207.89 จุด เพิ่มขึ้น 20.03 จุด (+1.69%) มูลค่าซื้อขายราว 24,721 ล้านบาท
การซื้อขายช่วงเช้า แกว่งตัวขึ้นตลอดช่วงเวลาซื้อขาย โดยทำระดับสูงสุด 1,209.19 จุด และจุดต่ำสุด 1,195.24 จุด
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่วว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ขึ้นมาได้ดีทะลุระดับ 1,200 จุด ตอบรับจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยนโยบายการเงินเพิ่มสภาพคล่องในตลาด โดยธนาคารกลางจีนปรับลด RRR ลง 0.50% เป็นครั้งแรกในปีนี้
อีกทั้งนายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ออกมาระบุว่าสหรัฐฯและจีนเตรียมจัดการเจรจาการค้าระดับสูงในช่วงสุดสัปดาห์นี้ที่สวิตเซอร์แลนด์ ทำให้ตลาดหุ้นวันนี้มีโมเมมตัมที่ดี เชื่อว่าในอีก 2-3 สัปดาห์น่าจะเห็นพัฒนาการการเจรจาการค้าของสหรัฐฯกับหลายประเทศ
"คงไม่ได้แย่ไปกว่านี้ ซึ่งช่วงที่แย่ๆ ตลาดรับรู้ไปแล้ว หากมีการปลดล็อกปรับลดภาษีตอบโต้ก็จะช่วยให้บรรยากากศการลงทุนดีขึ้น คงไม่ได้กลับไปเก็บภาษีตอบโต้ที่เท่าที่เคยประกาศ เพราะสหรัฐก็รู้ตัวว่าหากยังดำเนินการเรื่องนี้จะกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯเอง โดยตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/68 ติดลบ หากไตรมาส 2/68 ติดลบอีกก็จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าภาวะถดถอยทางเทคนิค"นายวิจิตร กล่าว
ตลาดบ้านเรามีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามาในหุ้นกลุ่ม China Play โดยเฉพาะกลุ่มปิโตรเคมีขึ้นมาได้สวย ทั้ง IVL, PTTGC, SCGP รวมถึงราคาน้ำมันดีดกลับขึ้นมาจากที่ลงมามากแล้ว ขณะที่บริษัทจดทะเบียนหลายบริษัทประกาศงบไตรมาส 1/68 ออกมาดีกว่าคาด โดยเฉพาะ ADVANC
ส่วนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ (7 พ.ค.) คาดเฟดคงอัตราดอกเบี้ย เพราะมองว่าน่าจะรอติดตามสถานการณ์การเจรจาการค้าของสหรัฐและประเทศต่าง ๆ ก่อน โดยมองว่าครึ่งปีหลังเฟดน่าจะปรับลดดอกเบี้ย 3 ครั้งๆ ละ 0.25% แต่รอบประชุมเดือน พ.ค.และมิ.ย.อาจจะตรึงดอกเบี้ยไว้ก่อน
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยช่วงบ่ายก็ยังมีโมเมมตัมดีต่อเนื่อง พร้อมปรับแนวรับขึ้นมาที่ 1,200 จุด และให้แนวต้าน 1,220 จุด
ด้านนายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าได้แรงหนุนหลักจากรายงานความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่จะเกิดขึ้นในสุดสัปดาห์นี้ และผลประกอบการของ ADVANC ที่ดีกว่าคาด รวมไปมีแรงเก็งกำไรหุ้นกลุ่มพลังงานหลังจากราคาน้ำมันปรับตัวกลับขึ้นมาได้บ้าง
แนวโน้มช่วงบ่ายคาดตลาดแกว่งขึ้นได้ต่อ หากไม่มีปัจจัยใดเข้ามากระทบจนกว่าตลาดปิดทำการซื้อขาย แนะจับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) วันนี้ตามเวลาสหรัฐ
ให้แนวต้าน 1,215 จุด และแนวรับ 1,200 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,639.82 ล้านบาท ปิดที่ 304.00 บาท เพิ่มขึ้น 7.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,426.58 ล้านบาท ปิดที่ 97.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.75 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,246.95 ล้านบาท ปิดที่ 163.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,173.31 ล้านบาท ปิดที่ 12.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,072.03 ล้านบาท ปิดที่ 38.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท