นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ [JMART] กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 1/68 มีผลกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้น 140.3 ล้านบาท ลดลง 40.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากกำไรขั้นต้นลดลงจากต้นทุนกำไรดำเนินงานเพิ่มสูงขึ้นในบริษัทย่อย ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทได้เริ่มปรับโครงสร้างต้นทุนและประสิทธิภาพการดำเนินงาน เพื่อรองรับผลกระทบและวางรากฐานสำหรับการเติบโตระยะยาว
โดยภาพรวมไตรมาส 1/68 ยังเผชิญความท้าทายจากเศรษฐกิจโลก หนี้ครัวเรือนในระดับสูง และกำลังซื้อที่ชะลอตัว แต่บริษัทได้วางแนวทางแก้ไขปัญหา โดยธุรกิจที่สามารถสเกลได้ เช่น "Lock Phone" จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ พร้อมเดินหน้าสร้าง Synergy และเครือข่ายการขายภายใต้ความเสี่ยงที่บริหารได้
นอกจากนี้ ในไตรมาส 1/68 บริษัทมีรายได้รวม 3,727 ล้านบาท เติบโต 2.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากแรงหนุนของยอดขายโทรศัพท์มือถือของบริษัท เจมาร์ท โมบาย จำกัด ซึ่งมาจากการส่งเสริมยอดขายผ่านโครงการสินเชื่อมือถือ Lock Phone ภายใต้โครงการ Samsung Finance+ และ SG Finance+ รวมถึงมาตรการภาครัฐ Easy E-Receipt 2.0
สำหรับความแข็งแกร่งจากบริษัทที่เข้าไปลงทุน JMART ได้รับเงินปันผลจากการลงทุนในบริษัทร่วม สร้างกระแสเงินสดจากเงินปันผลรับราว 530 ล้านบาท จึงเตรียมจ่ายปันผลตอบแทนผู้ถือหุ้น และไฮไลท์จาก "สุกี้ตี๋น้อย" ให้ผลตอบแทนดีมาก ในไตรมาสแรกบริษัทมีกำไรสุทธิ 271 ล้านบาท และส่งกำไรให้ JMART ถึง 79 ล้านบาท จากการขยายสาขาและการตอบรับที่ดีของลูกค้า โดย ณ สิ้นเมษายน มี 85 สาขา
ขณะที่กลุ่ม SINGER โดย บมจ.ซิงเกอร์ประเทศไทย มีจุดเด่นในการเป็นบริษัทที่ไร้หนี้หุ้นกู้ ล่าสุด ทำกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ 20 ล้านบาท จากนโยบายการปล่อยสินเชื่อเพื่อรักษาคุณภาพพอร์ต มุ่งเน้นธุรกิจ Lock Phone และเตรียมขยายพอร์ตสินค้ากลุ่มใหม่ ด้าน บมจ.เอสจี แคปปิตอล [SGC] มีกำไรสุทธิ 71.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 297.5% จากการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อ Lock Phone ที่มีอัตราผลตอบแทนสูง สามารถควบคุม NPL ณ สิ้นเมษายน ปล่อยสินเชื่อสะสมรวมอยู่ที่ 5,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นไฮไลท์ต่อเนื่องในปีนี้ หนุน SINGER และ SGC เติบโตอย่างน่าสนใจ
ส่วนบริษัท เคบี เจ แคปปิตอล จำกัด หรือ KBJ ผลงานเริ่มพลิกกลับมาทำกำไร ด้วยธุรกิจสินเชื่อ Samsung Finance+ พร้อมเดินหน้าร่วมมือกับพันธมิตรในเครือ เพื่อสร้างจุดขายร่วมอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภายใต้ บมจ.เจเอเอส แอสเซ็ท [J] ได้รับผลประกระทบจากต้นทุนดอกเบี้ยและภาษีชั่วคราวที่เพิ่มขึ้น แต่หลังจากปรับเกมธุรกิจ มั่นใจว่า ทิศทางจะดีขึ้นในช่วงหลังจากนี้ และสามารถพลิกกลับมาทำกำไรได้