SET ปิดวันนี้ที่ 1,176.36 จุด เพิ่มขึ้น 2.99 จุด (+0.25%) มูลค่าการซื้อขาย 34,683.81 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีปรับขึ้นช่วงเช้าก่อนลดช่วงบวก โดยทำจุดต่ำสุด 1,173.54 จุด และทำจุดสูงสุด 1,184.86 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 259 หลักทรัพย์ ลดลง 206 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 190 หลักทรัพย์
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งกรอบแคบ ระหว่างเทรดภาคเช้าเด้งขึ้นไปกว่า 10 จุด ตามทิศทางตลาดภูมิภาค แต่เมื่อยังไร้ปัจจัยใหม่หนุนให้ไปต่อ ทำให้ลดช่วงบวกลงมา หลังจากตลาดรับรู้ประเด็นการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนไปพอสมควร รวมทั้งการเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 1/68 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ก็สะท้อนไปในราคาแล้ว
นอกจากนี้ ปัจจัยพื้นฐานของเรายังไม่แข็งแรง แม้การเปิดเผยผลประกอบการ บจ.ยังออกมาดีในไตรมาส 1/68 แต่ระยะถัดไปในไตรมาส 2/68 คาดว่าการเติบโตจะชะลอลง เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงกว่าคาด ส่งผลให้เริ่มเห็นแรงขายในหุ้นกลุ่ม Domestic Play
แนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดตลาดยังแกว่งในกรอบจำกัด อาจมีจังหวะรีบาวด์ระยะสั้นได้บ้าง โดยตลาดรอปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน ซึ่งในสัปดาห์หน้าต้องติดตามการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ และตัวเลขส่งออกของไทย กลยุทธ์การลงทุนแนะเลือกเล่นหุ้นรายตัวที่คาดว่าผลประกอบการจะออกมาดี
พร้อมทั้งให้กรอบแนวรับ 1,150 จุด และแนวต้าน 1,200 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,272.12 ล้านบาท ปิดที่ 164.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,266,33 ล้านบาท ปิดที่ 47.75 บาท ลดลง 1.25 บาท
BH มูลค่าการซื้อขาย 1,417.45 ล้านบาท ปิดที่ 144.00 บาท ลดลง 5.50 บาท
CRC มูลค่าการซื้อขาย 1,342.67 ล้านบาท ปิดที่ 18.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,179.35 ล้านบาท ปิดที่ 21.70 บาท ลดลง 0.40 บาท