
นายทรงวุธ เวชชานุเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สโตนวัน [STX] เปิดเผยว่า บริษัทปิดดีลซื้อหุ้นสามัญของ BTV คิดเป็น 100% ของหุ้นทั้งหมดแล้ว ส่งผลให้ STX ถือกรรมสิทธิ์ในเหมืองหินปูนที่อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี อย่างเต็มรูปแบบ โดยเหมืองดังกล่าวได้รับอนุญาตประทานบัตรมีอายุ 29 ปี พร้อมปริมาณสำรองหินกว่า 25 ล้านตัน ซึ่งจะช่วยเสริมกำลังผลิตของบริษัทและรองรับคำสั่งซื้อในอนาคต พร้อมกับ มุ่งเน้นการขยายในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เป็นโอกาส และรักษาระดับความสามารถในการทำกำไรให้อยู่ในระดับที่ดี
"การเข้าซื้อเหมืองหินปูนที่จังหวัดเพชรบุรี ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของ STX เพราะที่ผ่านมาเรามีผลิตภัณฑ์หลักคือหินแกรนิต ซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 48% ของรายได้รวม ขณะที่หินปูนมีความสามารถในการทำกำไรสูงเข้ามาเสริมทัพ เช่นเดียวกับแร่โดโลไมต์ ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตดี เราคาดว่าสัดส่วนรายได้จากหินปูนและโดโลไมต์จะเพิ่มขึ้นรวมกันมากกว่าครึ่งของรายได้รวม หนุนอัตรากำไรของบริษัทโดยรวมมีเสถียรภาพ" นายทรงวุธกล่าว
ทั้งนี้ STX ตั้งเป้าเริ่มรับรู้รายได้จากเหมืองเพชรบุรีอย่างมีนัยสำคัญในช่วงโค้งแรกของปี 2569 ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการพัฒนาเปิดพื้นที่เหมือง และก่อสร้างโรงงานโม่หิน
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ เตรียมเดินหน้าลงทุนเพิ่มเติมในสายการผลิตโดโลไมต์ ซึ่งเป็นแร่ที่กำลังมีความต้องการสูงจากลูกค้าในภาคอุตสาหกรรมเหล็กและกระจก หลังจากที่กระทรวงอุตสาหกรรมมีนโยบายยกเลิกการใช้เตาหลอมเหล็กแบบ Induction Furnace (IF) และให้เปลี่ยนไปใช้เตาแบบ Electric Arc Furnace (EAF) ซึ่งต้องใช้โดโลไมต์ในกระบวนการผลิตมากขึ้น ส่งผลให้ STX ได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้าเพิ่มขึ้น
"ปัจจุบันสัดส่วนรายได้จากโดโลไมต์อยู่ที่ราว 15% คาดว่าหลังแผนลงทุนใหม่แล้วเสร็จจะเพิ่มเป็น 2025% ซึ่งจะช่วยให้สัดส่วนของรายได้จากสินค้ามาร์จิ้นสูงเพิ่มขึ้น" นายทรงวุธ กล่าว
พร้อมกันนี้ ผู้บริหาร STX ยังมองว่า ไม่ว่าเศรษฐกิจไทยในภาพรวมจะอยู่ในช่วงขาขึ้นหรือขาลง แต่สิ่งที่ยังคงมีความต่อเนื่อง คือการลงทุนของภาครัฐในโครงการสาธารณูปโภคต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของอุตสาหกรรมเหมืองหินและแร่ STX มีข้อได้เปรียบด้านทำเล เนื่องจากสถานประกอบการของเราอยู่ใกล้พื้นที่ยุทธศาสตร์ ทั้งในภาคตะวันออกและภาคตะวันตก ทำให้สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ สะท้อนให้เห็นว่า แม้ในช่วงโควิดที่ภาคเอกชนชะลอลงทุน แต่ด้วยแรงหนุนจากงานภาครัฐ ธุรกิจของเรายังคงเดินหน้าและสามารถสร้างกำไรได้อย่างต่อเนื่อง