นายอนิพัทย์ ศรีรุ่งธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บมจ.ออโรร่า ดีไซน์ [AURA] เปิดเผยว่า แผนงานในระยะถัดไป บริษัทเตรียมขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบหน้าร้าน แอปพลิเคชัน และบริการผ่อนทอง 0% เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ โดยตั้งเป้าขยายสาขาให้ครบ 1,070 แห่งภายในปี 2570 พร้อมทั้ง ขยายพอร์ตสินเชื่อทองมาเงินไป เติบโตก้าวกระโดดด้วยบัญชีลูกค้า (AR) แตะ 7,500 ในสิ้นปี 2568 และเร่งตัวแตะ 20,000 ล้านบาท ในปี 2570 เช่นกัน โดยเตรียมออกหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 3,000 ล้านบาทในไตรมาส 3/68 เพื่อรองรับการเติบโตในระยะกลางถึงยาว
"ตลาดทองคำยังสดใส และเราพร้อมต่อยอดจากความเชื่อมั่น ที่ลูกค้ามีต่อออโรร่า เพื่อขยายธุรกิจแบบยั่งยืน ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำของระบบนิเวศทองคำ" นายอนิพัทย์ กล่าว
นายอนิพัทย์ กล่าวว่า AURA ไม่เพียงเป็นผู้ค้าปลีกทองคำรายใหญ่ แต่กำลังก้าวสู่การเป็น "Gold Tech Company" ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี และสร้างการเติบโตแบบ Exponential ผ่าน 2 แกนธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจค้าปลีกทองคำ (Gold Jewelry Business) และ ธุรกิจสินเชื่อทองคำ "ทองมาเงินไป" (Gold Financing Business)
ภาพรวมธุรกิจของ AURA เป็นที่จับตามองของนักลงทุนในช่วงที่ราคาทองคำโลกอยู่ในโซนขาขึ้น ในช่วงวันที่ 17 มิถุนายน ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ราคาทอง (ทองคำ 96.5%) ทองรูปพรรณ ขายออกที่ราคา 53,000.00 บาท/บาททองคำ ส่วนราคารับซื้ออยู่ที่ 51,058.88 บาท/บาททองคำ ทองคำส่วน Gold Spot อยู่ที่ 3,396 ดอลลาร์ฯ ต่อออนซ์ ยังคงแกว่งตัว เนื่องจากรอจับตาสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน รวมทั้งผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสัปดาห์นี้ สะท้อนถึงแรงซื้อในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย และส่งผลบวกต่อมูลค่าทองคำที่ใช้เป็นหลักประกันในธุรกิจสินเชื่อของ AURA ทำให้ลูกค้าเข้าถึงวงเงินได้มากขึ้น และผลักดันการเติบโตของพอร์ตสินเชื่ออย่างมีนัยสำคัญ
"แม้ราคาทองจะผันผวนขึ้นหรือลง แต่ AURA มีโครงสร้างธุรกิจที่พร้อมรับมือในทุกภาวะตลาด ด้วยการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ และโมเดลธุรกิจที่ครอบคลุมทั้งห่วงโซ่ธุรกิจทอง" นายอนิพัทย์ กล่าว
ล่าสุด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประกาศ AURA เป็นหลักทรัพย์เข้าใหม่ในการคำนวณดัชนี SET100 รอบครึ่งหลังของปี 2568 (1 กรกฎาคม-31 ธันวาคม 2568) ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่สะท้อนสถานะของ AURA ในฐานะหุ้น 100 ตัวแรกที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูง (Market Cap), มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยรายวันโดดเด่น และ สภาพคล่องสอดคล้องตามเกณฑ์ ซึ่งช่วยเสริมความเชื่อมั่นในกลุ่มนักลงทุนและกองทุนอย่างต่อเนื่อง และยังเข้าดัชนี SET Well-being (SETWB) ที่สะท้อนการเคลื่อนไหวของกลุ่มหลักทรัพย์ 30 หลักทรัพย์ใน 7 หมวดธุรกิจที่ประเทศไทยมีศักยภาพในการแข่งขันและเป็นธุรกิจที่ผู้ลงทุนต่างชาติให้ความสนใจ