
นายสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น [CRC] เปิดเผยว่า บริษัทมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงและแข็งแกร่งในทุกมิติภายในระยะเวลา 3 ปีนี้ (ปี 68-70) ด้วยเป้าหมายการเติบโตของรายได้และ EBITDA เฉลี่ย 5% ต่อปี ด้วยงบลงทุนรวมกว่า 45,000-47,000 ล้านบาทเพื่อเพิ่มทราฟฟิกศูนย์การค้า การพัฒนาแพลตฟอร์ม รวมทั้งเร่งขยายสาขาทั้งในและต่างประเทศ โดยยังมุ่งเน้นการเติบโตหลักจากในไทยและเวียดนาม
แผนขยายสาขาใน 3 ปี แบ่งเป็น Department Stores ใหม่ 1-2 สาขา และปรับปรุงสาขาเดิม 4-6 สาขา จากปัจจุบันมี 76 สาขา, Tops เปิดสาขาใหม่ 25-30 สาขา และปรับปรุงสาขาเดิม 8-10 สาขา จากปัจจุบัน 175 สาขา, ไทวัสดุ สาขาใหม่ 13-16 สาขา และปรับปรุงสาขาเดิม 8-10 สาขา ปัจจุบัน 86 สาขา, Robinson Lifestyle สาขาใหม่ 2-3 สาขา และปรับปรุงสาขาเดิม 5-7 สาขา ปัจจุบัน 28 สาขา

รวมถึงมีแผนจะขยายสาขา Go Wholesale อีก 4-6 สาขาจากปัจจุบัน 42 สาขา และรีโนเวท 6-8 สาขา และ go mini ขยายอีก 12-15 สาขา จากปัจจุบัน 14 สาขา
นายสุทธิสาร กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังคงไม่ได้เติบโตมากอย่างที่ผ่านมา เพราะเริ่มเห็นสัญญาณชะลอตัวของกำลังซื้อมาตั้งแต่เดือนเม.ย. แต่มองว่าความผันผวนจากสงครามในตะวันออกกลางอาจเป็นแค่ปัจจัยกระทบในระยะสั้น และปัจจุบันน่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ความผันผวนจากเศรษฐกิจในประเทศยังคงอยู่ หากรัฐบาลและเอกชนร่วมมือกันสนับสนุนส่งเสริมจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดในภาวะเช่นนี้เชื่อว่าระยะยาวสถานการณ์จะกลับมาเป็นปกติได้
"สำหรับธุรกิจเราอยากให้ภาครัฐกระตุ้นการจับจ่าย ช่วยเหลือประชาชนในเรื่องพื้นฐาน และดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพเข้ามามากขึ้น ไม่จำเป็นต้องเอามาเยอะ แต่นำกลุ่มที่มีคุณภาพเข้ามา"นายสุทธิสาร กล่าว
ด้วยสภาวะดังกล่าวบริษัทได้ศึกษากลุ่มลูกค้า โดยพบว่ากลุ่มที่ยังเติบโตและมีกำลังซื้อที่ดีคือกลุ่ม Mainstream ที่ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป ซึ่งต้องมีปัจจัยกระตุ้นลูกค้ากลุ่มนี้ให้จับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น โดยก่อนหน้านี้บริษัทมุ่งเน้นไปที่กลุ่มกำลังซื้อสูง (Affluent) และกลุ่ม Luxury ไปแล้ว ขณะที่ฐานลูกค้าของบริษัทในกลุ่ม Mainstream ยังน้อยเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรไทย โดยปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 50% ของฐานลูกค้าทั้งหมดของบริษัท แต่ปริมาณการใช้จ่ายยังน้อยอยู่สะท้อนว่ายังมีโอกาสเติบโต
"การทำธุรกิจในยุคที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัว และพฤติกรรมผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นับเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมาก แต่เซ็นทรัล รีเทล เรามองความท้าทายเหล่านี้เป็นโอกาส และเป็นแรงขับเคลื่อนให้คิดใหม่และทำใหม่ (Rethink & Reset) โดยนำเทคโนโลยี AI เข้ามาเสริมแกร่งให้กับการทำงานในทุกมิติขององค์กร ทั้งในแง่การเสริมศักยภาพให้บุคลากร เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพสูงสุด
รวมถึงทำให้เข้าใจและเข้าถึงลูกค้าได้ลึกกว่าเดิม เพราะผู้บริโภคในทุกวันนี้ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องราคาสินค้าเพียงอย่างเดียว แต่มองหาประสบการณ์ที่ดีที่สุด คุ้มค่า สะดวก ง่าย และรวดเร็ว สิ่งเหล่านี้จึงกลายเป็นโจทย์ให้ เซ็นทรัล รีเทล มุ่งตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าให้ได้ทั้งในช่องทางออฟไลน์ และออนไลน์ บน Ecosystem ของเราที่มีความยืดหยุ่น แข็งแกร่ง และพร้อมปรับตัว เพื่อก้าวไปข้างหน้าอยู่เสมอ"
โรดแมป 3 ปีของ CRC ชูกลยุทธ์ "New Heights, Next Growth" ดัน 5 แกนหลัก ยกระดับศักยภาพองค์กรสู่การเติบโตครั้งใหม่ตลอดช่วงปี 68-70 ประกอบด้วย
1. Reinforce Customer Focus เข้าใจและเข้าถึงลูกค้าอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นผ่านการเสริมแกร่งfh;p The 1 Loyalty Program ในไทยและเวียดนามที่มีจำนวนสมาชิกรวมกันกว่า 26 ล้านราย ตอกย้ำการเป็นเบอร์ 1 ด้าน Loyalty Platform พร้อมขยายฐานกลุ่มลูกค้า Young & Mainstream และเจาะกลุ่มลูกค้า B2B มากยิ่งขึ้น
2. Strengthen CRC Foundation เสริมรากฐานขององค์กรให้แข็งแกร่งด้วยการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจหลัก ทั้งด้านยอดขายและกำไร รวมถึงการขยายและปรับปรุงสาขา พร้อมรวมแพลตฟอร์มให้เป็นหนึ่งเดียวต่อยอดสู่ประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบ Omnichannel ที่ไร้รอยต่อ เร่งนำ AI เข้ามาเสริมแกร่ง และผลักดันยอดขายออนไลน์ให้เติบโตแบบ Double Digit อย่างต่อเนื่อง รวมถึงเร่งขยายธุรกิจ Food และ Mall ในเวียดนาม รวมถึงน้ำเสนอ Store Format ที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายเชิงลึกในแต่ละพื้นที่
3. Expedite New Growth เร่งสร้างการเติบโตให้กับ New Growth Engine ผ่านการขยาย GO WHOLESALE ด้วย 5 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่ ขยาย Private Labels, ก้าวสู่การเป็น HORECA Destination กลุ่มธุรกิจอาหาร, เป็นผู้นำเรื่องของสด (Always Fresh-Forward), ขยายสาขาอีกกว่า 12-18 สาขาใน 3 ปี และพัฒนา New Store Concept และ Fulfillment Store ให้เหมาะกับกลุ่ม HORECA และค้าปลีกอาหาร นอกจากนี้ยังขยายเครือข่ายธุรกิจของ Autol ศูนย์บริการและจำหน่ายอุปกรณ์รถยนต์ครบวงจร ด้วยการเร่งเปิดสาขาเพิ่มไม่ต่ำกว่า 10 สาขาต่อปี ให้ครอบคลุมในทำเลศักยภาพ
4. Scale Synergy สร้างความร่วมมืออย่างเข้มข้นทั้งในองค์กรและนอกองค์กร เน้นการทำงานร่วมกันในเครือเซ็นทรัลทั้งในเชิงการเพิ่มยอดขาย และผลักดันการทำงานร่วมกันของพนักงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด ตลอดจนการบริหารพื้นที่ขายให้ตอบโจทย์ลูกค้า พร้อมเพิ่มผลตอบแทนการลงทุน (ROI) ด้วยโมเดล Mix-used และ Hybrid Retail Store
5. Disciplined Financial Management บริหารการเงินอย่างรอบคอบให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน โดยควบคุมค่าใช้จ่าย เน้นลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพ ปรับแผนการลงทุนให้สอดคล้องและยืดหยุ่นต่อสถานการณ์ พร้อมบริหารโครงสร้างเงินทุนอย่างเหมาะสม
ด้านนายปเนต มหรรฆานุรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการเงิน CRC เปิดเผยว่า แนวโน้มยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) ของ CRC ช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.68 ยังมีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่องจากไตรมาส 1/68 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และกำลังซื้อลดลง ขณะที่บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมปี 68 เติบโต 4-6% จากปีก่อนที่มีรายได้ 262,804.38 ล้านบาท
ขณะที่งบลงทุน 3 ปีจะมาจากกระแสเงินสดและสถาบันการเงิน สำหรับแผนการออกหุ้นกู้ต้องดูจังหวะเวลาที่เหมาะสม โดยปัจจุบันฐานะทางเงินของบริษัทยังแข็งแกร่งอยู่