เมื่อเวลา 14.52 น. หุ้น BEM ดีดตัวขึ้น 3.86% มาที่ 4.84 บาท เพิ่มขึ้น 0.18 บาท มูลค่าซื้อขาย 228.23 ล้านบาท
BTS บวก 2.34% มาที่ 3.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท มูลค่าซื้อขาย 352.60 ล้านบาท
บล.กรุงศรี ระบุว่า ราคาหุ้น บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ [BEM] และ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ [BTS]ปรับตัวขึ้นเป็นผลมาจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เตรียมเปิดให้ลงทะเบียนผ่านแอป "ทางรัฐ" ได้ตั้งแต่เดือน ส.ค.นี้ และเริ่มใช้บริการจริงตั้งแต่ 1 ต.ค.68 ครอบคลุมทุกสายทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล มองเป็นบวกกับ BTS และ BEM ทำให้ค่าตั๋วถูกลงและจำนวนผู้เข้าใช้บริการเพิ่ม
เงื่อนไขการลงทะเบียนต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทยเท่านั้น ระบุเลขบัตรประชาชน 13 หลัก และสามารถใช้ผ่านบัตรเครดิต บัตรเดบิต และบัตรโดยสาร (Rabbit Card ที่เคยลงทะเบียนไว้) ใช้งานกับระบบรถไฟฟ้าผ่านแอปฯ "ทางรัฐ" บัตรที่ได้รับการยืนยันการลงทะเบียนจะได้สิทธิโดยอัตโนมัติเมื่อใช้งานตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.68 ครอบคลุมทั้งโครงข่ายรถไฟฟ้าทั้งบนดินและใต้ดินในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ประกอบไปด้วย สายสีเขียว, สีทอง, สีเหลือง, สีชมพู, สีน้ำเงิน, สายสีม่วง, สายสีแดง และสายแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ (ARL)
การใช้บริการบัตร Rabbit Card (บัตรเติมเงิน) จะใช้ได้กับสายสีเขียว, สีทอง, เหลือง, ชมพู ขณะที่บัตร EMV Contactless (หรือบัตรเครดิต Visa/Mastercard) สามารถใช้กับ 6 สาย คือ สายสีแดง, น้ำเงิน, ม่วง, ชมพู, เหลือง, ARL (ไม่รวมสีทองและสีเขียว) ในอนาคตจะมีการเปิดระบบสแกน QR Code ในมือถือแทนการใช้บัตรเพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับประชาชน
มาตรการอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาทตลอดสายนี้ จะครอบคลุมโครงข่ายเส้นทางรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพและปริมณฑล จำนวน 13 เส้นทาง ระยะทางรวม 279.84 กิโลเมตร 194 สถานี สำหรับแนวทางการชดเชยรายได้ค่าโดยสารจากการดำเนินมาตรการจะมาจากกองทุนส่งเสริมระบบตั๋วร่วม หรือแหล่งเงินอื่นที่เหมาะสม