(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มเช้าฟื้นต่อหวังไทยใกล้สรุปเจรจาสหรัฐ-Fund Flow ไหลเข้าต่อ จับตาตัวเลขส่งออก

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday July 24, 2025 09:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักวิเคราะห์ฯ ระบุตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดยังฟื้นตัวต่อ จากความหวังว่าไทยปิดดีลเจรจาสหรัฐในเร็ว ๆ นี้ และ Fund Inflow ยังไหลเข้าต่อเนื่อง แนะติดตามการรายงานตัวเลขส่งออกของไทยเดือน มิ.ย.ตลาดคาดขยายตัว 18.3% รวมถึงให้ติดตามบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจพิจารณางบ 4 หมื่นล้านบาทจะออกมาตรการอย่างไร โดยให้กรอบแนวต้าน 1,230 จุด แนวรับ 1,210 จุด

นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นเช้านี้คาดยังฟื้นตัวได้ต่อ ภาพรวมของตลาดยังอยู่ในเกณฑ์ดีจากความหวังว่ารัฐบาลไทยจะสามารถหาข้อสรุปการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ได้เร็ว ๆ นี้ และยังมีปัจจัยบวกจากกระแสเม็ดเงินลงทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ช่วงช้าวันนี้ แนะติดตามการรายงานตัวเลขส่งออกของไทยเดือน มิ.ย.68 ที่ตลาดคาดว่าจะขยายตัว 18.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน รวมถึงให้ติดตามที่ประชุมคณะอนุกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจในการพิจารณาแนวทางจัดสรรงบที่เหลือ 4 หมื่นล้านบาทว่าจะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือเยียวยาผลกระทบจากนโนบายภาษีสหรัฐฯ อย่างไร

โดยให้กรอบแนวต้าน 1,230 จุด และแนวรับ 1,210 จุด

ขณะที่ นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า เหตุปะทะกันของทหารไทย-กัมพูชาเช้าวันนี้บริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ สามารถเป็น sentiment เชิงลบให้แก่ตลาดได้เล็กน้อย โดยอาจจะทำให้ดัชนีแกว่งตัวไซด์เวย์ในช่วงเช้า แต่คาดว่าในช่วงบ่ายก็น่าจะฟิ้นตัวได้ต่อ ด้วยเงินบาทที่ยังแข็งค่า และกระแสเม็ดเงินต่างชาติที่ไหลเข้ามา

อย่างไรก็ตาม หุ้นรายตัวที่มีธุรกิจในประเทศกัมพูชาก็อาจได้รับผลกระทบจากข้อพิพาทวันนี้ อย่าง CBG OR หรือหุ้นโรงพยาบาล แต่ในภาพรวมดัชนี SET คาดว่าจะได้ผลกระทบไม่มาก

*ประเด็นพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (23 ก.ค.) 45,010.29 จุด เพิ่มขึ้น 507.85 จุด หรือ +1.14%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,358.91 จุด เพิ่มขึ้น 49.29 จุด หรือ +0.78% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 21,020.02 จุด เพิ่มขึ้น 127.33 จุด หรือ +0.61%

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวกวันนี้ 41,657.98 จุด เพิ่มขึ้น 486.66 จุด หรือ +1.18% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 25,528.22 จุด ลดลง 9.85 จุด หรือ -0.04% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,578.91 จุด ลดลง 3.40

จุด หรือ -0.10%

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (23 ก.ค.) 1,219.62 จุด เพิ่มขึ้น 27.87 จุด (+2.34%) มูลค่าซื้อขาย 45,127.72 ล้านบาท

- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ (23 ก.ค.) 4,496.44 ล้านบาท

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. (23 ก.ค.) ลดลง 6 เซนต์ หรือ 0.09% ปิดที่ 65.25 ดอลลาร์/บาร์เรล

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (23 ก.ค.) อยู่ที่ 3.23 เหรียญ/บาร์เรล

- เงินบาทเปิด 32.11/13 ตลาดจับตาเจรจาภาษีไทย-สหรัฐ สถานการณ์ชายแดนกัมพูชา

- คลังชงบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจวันนี้ (24 ก.ค68) เคาะงบ 4 หมื่นล้านบาท รับมือภาษีสหรัฐ ด้าน 'เผ่าภูมิ' คาดเม็ดเงินลงระบบเศรษฐกิจปลายไตรมาส 4 ดันจีดีพีโตเพิ่ม 0.4-0.5%

- "พิชัย" ส่งข้อเสนอสุดท้าย ให้สหรัฐ หวังจูงใจลดจาก 36% ลุ้นก่อนเส้นตาย 1 ส.ค.รับไทยโดนภาษี 2 Tier "ทีดีอาร์ไอ" ชี้ญี่ปุ่นได้ดีล 15% แนะจับตาดูญี่ปุ่นลงทุนสหรัฐ "หอการค้า" ชี้ภาษีไม่ใช่เงื่อนไขเดียวลงทุนไทย "ยูโอบี" ระบุเงินทุนกระจายความเสี่ยงในเอเชีย "บัวหลวง" มองผลเจรจาภาษีทรัมป์ในภูมิภาคใกล้เคียงกัน ไทยลุ้น 20-25%

- "สุริยะ" สั่ง ทอท.ศึกษาปรับขึ้นค่าธรรมเนียมผู้โดยสารขาออก "PSC" ขีดเส้นเสร็จ ก.ย.นี้ หวังดึงรายได้ลงทุนขยาย

สนามบิน ยันไทยจัดเก็บค่าธรรมเนียมไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง มั่นใจไม่กระทบการท่องเที่ยว

- สภาฯโหวตท่วมท้น 427 เสียงต่อ 1 กฎหมาย "หวยเกษียณ" มุ่งส่งเสริมการออมให้ปชช. ชูหลักการ"โดนหวยกิน แต่เงิน ไม่สูญ สะสมเป็นเงินออม" เบิกใช้ได้ตอนอายุ 60 ปี เล็งคิกออฟขายงวดแรกภายในไตรมาส 4 ขายคนอายุ 15 ปีขึ้นไป

ออกรางวัล ทุกวันศุกร์ กำหนดซื้อสูงสุด 3,000 บาทต่อคนต่อเดือน
*หุ้นเด่นวันนี้

-AMATA (พาย) ซื้อ ราคาเป้าหมาย 33.50 บาท คาดหวังเจรจาการค้าไทย-สหรัฐเป็นปัจจัยหนุน ส่วนระยะสั้นจะได้รับผลกระทบไม่มากนักจากการปรับภาษีของสหรัฐฯ เนื่องจากมี Backlog รอรับรู้อีกกว่า 21,000 ล้านบาท ขณะที่การขายที่ดินตั้งแต่ต้นปียังมี เข้ามาอย่างต่อเนื่อง นับถึงปัจจุบันมีแล้วกว่า 750 ไร่ และยังมีลูกค้าในกลุ่ม Data Center อยู่ระหว่างเจรจาอีกกว่า 3 ราย

- PTTGC (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 23.10 บาท มองเชิงบวกต่อการเป็น global play ปัจจัยหนุนทั้งสั้น-กลาง-ยาว คือ การฟื้นตัวค่าการกลั่น(GRM) ใน Q2/68 เพิ่มจาก USD 3.4/bbl ใน Q1/68 มาที่ USD 4.0-5.0/bbl แรงหนุนอุปสงค์ตามฤดูกาล และต้นทุนผลิตโอเลฟินลดลงจากประโยชน์ใช้วัตถุดิบ ethane เพิ่มจาก 33% ใน Q4/67 เป็น 38% ใน Q1/68 ปัจจัยระยะกลางถึงยาวกลยุทธ์เพิ่มประสิทธิภาพดำเนินงาน เช่น Asset monetization และการไม่มีขาดทุนของ PTTAR และ Vencorex บริษัทอยู่ระหว่างดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพโดยมุ่งเน้นการประหยัดต้นทุนและการบริหารแบบองค์รวมคาดช่วยประหยัดต้นทุนรวมได้

- GPSC (คิงส์ฟอร์ด) ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 37.75 บาท แนวโน้ม Q2/68 คาดกำไรดีขึ้น QoQ, YoY โดย SPP อยู่ในเกณฑ์ดีแม้ ft ลดลงแต่ต้นทุนเชื้อเพลิงทั้งก๊าซ-ถ่านหินลดลงช่วยประคอง margin ส่วนแบ่งกำไรดีขึ้นจากเชื่อนไซยะบุรี-ลาวและมีกำไร FX ทั้ง GPSC และ CFXD-ไต้หวันเข้ามาช่วยหนุน แนวโน้ม Q3/68 คาดทรงตัวได้ต่อปัจจัยบวกจาก Avaada-อินเดีย ตามกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นและกำไรพิเศษจากการขายหุ้นออกไปบางส่วน (3.03%) รวมถึงการผลิตไฟฟ้า Hydro เป็น high season ส่วน ft รอบ ก.ย.-ธ.ค.ถ้าคงเดิมน่าจะเป็นบวกต่อ margin เพราะต้นทุนก๊าซลดลง ตลาดคาดกำไรปี 68-69 ที่ 4.6 พันล้านบาท +13%YoY และ 5.1 พันล้านบาท +11%YoY


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ